ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศสประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (10 ก.พ.) ว่า ฝรั่งเศสมีเป้าหมายที่จะเป็นประเทศที่ใช้พลังงานปลอดคาร์บอนภายในปี 2593 โดยจะเริ่มด้วยการใช้พลังงานหมุนเวียนและพลังงานนิวเคลียร์มากขึ้น
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายมาครงกล่าวว่า มาตรการต่าง ๆ จะรวมไปถึงการสร้างสวนพลังงานแสงอาทิตย์ ฟาร์มกังหันลมใต้น้ำ และเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แบบใช้แรงดันของยุโรป (EPR2) จำนวน 6 เครื่อง เพิ่มจากเดิม 8 เครื่องที่ควรจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2578
ทั้งนี้ นายมาครงกล่าวว่า เพื่อให้สำเร็จเป้าหมายดังกล่าว รัฐบาลฝรั่งเศสจะสนับสนุนเงินทุนในการก่อสร้าง รวมถึงระดมสถาบันของรัฐและท้องถิ่นมาทำงานร่วมกันเพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน
ฝรั่งเศสต้องกลับมาควบคุมพลังงานของตนเอง นายมาครงกล่าว พร้อมเสริมว่า ฝรั่งเศสต้องหยุดพึ่งพาการนำเข้าพลังงานฟอสซิลจากต่างประเทศและผลักดันอุตสาหกรรมพลังงานของฝรั่งเศสให้ก้าวหน้า
"โลกในอนาคตจะใช้ไฟฟ้ามากขึ้น" นายมาครงกล่าว
เพื่อช่วยลดการปลดปล่อยมลพิษ รัฐบาลฝรั่งเศสได้มอบเงินอุดหนุนแล้วจำนวน 5,000 ยูโร (5,750 ดอลลาร์) เพื่อช่วยให้ประชาชนซื้อรถไฟฟ้า
"ฝรั่งเศสต้องสามารถผลิตไฟฟ้าได้กว่า 60% ของความต้องการไฟฟ้าในประเทศเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของปี 2593" นายมาครงกล่าว พร้อมกับเพิ่มเติมว่า แม้ว่าจะล่าช้าในเรื่องของพลังงานหมุนเวียน แต่ฝรั่งเศสก็สามารถเป็นประเทศที่ปลอดคาร์บอนได้ภายในปี 2593