สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวไม่ระบุชื่อว่า รัฐบาลสหรัฐไม่น่าจะดำเนินการคว่ำบาตรรัสเซียด้วยการห้ามส่งออกน้ำมัน เพราะมีความกังวลในเรื่องเงินเฟ้อ ขณะที่ชาติพันธมิตรในยุโรป ตลาดน้ำมันโลก และผู้ใช้น้ำมันในสหรัฐ อาจเดือดร้อนเมื่อราคาน้ำมันแพงขึ้น
รายงานข่าวระบุว่า รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับสามของโลก โดยการปล่อยให้รัสเซียส่งออกน้ำมันต่อไปได้จะทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกไม่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรง แม้ในกรณีที่รัสเซียตัดสินใจบุกยูเครนเต็มกำลังก็ตาม
แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า สหรัฐจะจับตาสถานการณ์ในยูเครนอย่างใกล้ชิด และจะทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้มีผู้เดือดร้อนอย่างหนัก โดยสหรัฐกำลังพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ หากรัสเซียบุกยูเครนจริง ๆ เช่น ระงับการเก็บภาษีน้ำมันชั่วคราว ใช้น้ำมันสำรอง และจำกัดการส่งออกน้ำมันของสหรัฐเอง
บรรดานักลงทุนยังคงจับตาวิกฤตการณ์ในยูเครน โดยมีรายงานว่า รัสเซียได้เริ่มอพยพเจ้าหน้าที่ออกจากสถานเอกอัครราชทูตประจำกรุงเคียฟ ประเทศยูเครนแล้ว นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่รัสเซียยังได้ปลดธงชาติลงจากสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำกรุงเคียฟด้วย
การอพยพเจ้าหน้าที่ทูตรัสเซียดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ยูเครนประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 30 วัน และประกาศเกณฑ์ทหารกองหนุนเพื่อรับมือกับการโจมตีจากรัสเซีย ขณะที่วุฒิสภารัสเซียมีมติเป็นเอกฉันท์อนุมัติให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน สามารถใช้กองทัพรัสเซียออกปฏิบัติการนอกประเทศเพื่อให้การสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครน
ทางด้านสหรัฐ สหภาพยุโรป อังกฤษ ออสเตรเลีย แคนาดา และญี่ปุ่น ต่างก็ได้ออกมาตรการตอบโต้รัสเซียด้วยการคว่ำบาตรธนาคารบางแห่ง และนักธุรกิจบางราย ขณะที่เยอรมนีประกาศระงับการอนุมัติโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ Nord Stream 2 เป็นการชั่วคราว