บริษัทก๊าซพรอม ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซียเปิดเผยในวันนี้ว่า บริษัทจะเดินหน้าส่งออกก๊าซผ่านทางยูเครนต่อไปตามปกติตามคำสั่งซื้อของลูกค้า ซึ่งถือเป็นการสยบความหวั่นวิตกเรื่องการขาดแคลนพลังงานหลังรัสเซียเปิดปฏิบัติการโจมตียูเครน
ทั้งนี้ สำนักข่าวรอยเตอร์เปิดเผยถ้อยแถลงของก๊าซพรอมว่า ลูกค้าได้ทำการสั่งซื้อก๊าซที่ 83 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน ณ วันที่ 24 ก.พ. ซึ่งเพิ่มขึ้น 31.4% จากวันพุธที่ 23 ก.พ.
ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กเปิดเผยว่า ราคาก๊าซของยุโรปพุ่งขึ้นกว่า 40% หลังรัสเซียบุกโจมตียูเครน โดยสัญญาก๊าซล่วงหน้าของเนเธอร์แลนด์ ปรับตัวขึ้นมากถึง 41% แตะที่ 125 ยูโรต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ก่อนช่วงคริสต์มาส ก่อนชะลอตัวลงมาบวก 19% แตะที่ 106.11 ยูโร
ราคาก๊าซของเยอรมนีสำหรับสัญญาส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้นมากถึง 31% แตะที่ 260 ยูโรต่อเมกะวัตต์ชั่วโมง
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้น 6.6% แตะที่ 103.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. ปี 2557 ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐพุ่งขึ้น 6.2% แตะที่ 97.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำหรับรัสเซียนั้นเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกและจำหน่ายน้ำมันดิบส่วนใหญ่ให้กับโรงกลั่นในยุโรป อีกทั้งยังเป็นผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของยุโรป โดยจำหน่ายก๊าซธรรมชาติให้กับยุโรปคิดเป็นสัดส่วนมากถึงประมาณ 35% ส่วนยูเครนถือเป็นฟันเฟืองสำคัญด้านความมั่นคงทางพลังงานของยุโรป เพราะรัสเซียส่งก๊าซปริมาณมหาศาลผ่านยูเครนไปยังยุโรป