นักวิเคราะห์ด้านพลังงานคาดการณ์ว่า บริษัทเอ็กซอน โมบิล จะเผชิญแรงกดดันให้ตัดความสัมพันธ์กับบริษัทรอสเนฟต์ ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของรัสเซีย หลังจากที่บริษัทคู่แข่งอย่างบีพี ประกาศขายหุ้นในรอสเนฟต์เมื่อวานนี้ (27 ก.พ.)
นายอาร์เทม อับรามอฟ นักวิเคราะห์จากบริษัทริสตาด เอนเนอจี กล่าวว่า "บริษัทสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (E&P) ยักษ์ใหญ่และผู้ให้บริการรายใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจในรัสเซียจะเผชิญกับแรงกดดันมหาศาลให้ถอนทุนจากรัสเซีย"
"ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าเราเห็นประกาศใหญ่ ๆ ในทำนองเดียวกันกับกรณีบีพี-รอสเนฟต์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่คาดเดาได้ยากว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร" นายอับรามอฟกล่าว
ทั้งนี้ บีพีกล่าวเมื่อวานนี้ว่าจะลงรายการในบัญชีที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริง (write-down) 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ เพื่อขายหุ้นรอสเนฟต์ทิ้ง
ด้านเอ็กซอนมีสัดส่วนการถือหุ้น 30% ควบคู่ไปกับรอสเนฟต์, บริษัทโซเดกโคของญี่ปุ่น และบริษัทโอเอ็นจีซีวิเทศของอินเดีย ในแหล่งน้ำมันและก๊าซของเกาะซาฮาลิน ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย โดยกลุ่มดังกล่าวส่งออกน้ำมันไปแล้วมากกว่า 1 พันล้านบาร์เรล และก๊าซธรรมชาติ 1.03 พันล้านลูกบาศก์ฟุต นับตั้งแต่เริ่มผลิตในปี 2548
นอกจากนี้ ข้อมูลของเอ็กซอนระบุว่า เกาะซาฮาลินถือเป็นการลงทุนโดยตรงที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในรัสเซีย โดยมีแหล่งน้ำมันและก๊าซ 3 แห่งบนเกาะ และกลุ่มพันธมิตรดังกล่าวกำลังพัฒนาโรงงานก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แห่งใหม่บนเกาะ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วโรงงานดังกล่าวต้องใช้เงินสร้างถึงหลายพันล้านดอลลาร์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การที่รัสเซียบุกโจมตียูเครนนั้น ทำให้นานาชาติรุมประณามทางเศรษฐกิจและการเมืองในวงกว้าง อีกทั้งธนาคาร, บริษัทด้านเทคโนโลยี และบริษัทอื่น ๆ ต่างพากันถอนตัวจากรัสเซียในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน