นายโคอิจิ ฮากิอุดะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมญี่ปุ่นได้ออกมาเปิดเผยในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นจะทำการระบายน้ำมัน 7.5 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองฉุกเฉินภายใต้แผนการดำเนินการร่วมกันของกลุ่มประเทศสมาชิกสำนักงานพลังงานสากล (IEA) เพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน หลังรัสเซียออกปฏิบัติการโจมตียูเครน
ทั้งนี้ สำนักข่าวเกียวโดเปิดเผยถ้อยแถลงของนายฮากิอุดะว่า จากแผนระบายน้ำมันรวมทั้งสิ้น 60 ล้านบาร์เรลของ 31 ประเทศสมาชิก IEA ญี่ปุ่นถือเป็นประเทศที่วางแผนระบายน้ำมันจากคลังสำรองมากที่สุดเป็นอับดับ 2 รองจากสหรัฐซึ่งวางแผนระบายน้ำมัน 30 บาร์เรล
IEA บรรลุข้อตกลงระบายน้ำมันจากคลังสำรองเมื่อวันอังคารที่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมาเพื่อป้องกันไม่ให้การโจมตียูเครนของรัสเซียซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกนั้น สร้างความหวั่นวิตกด้านอุปทานเพิ่มยิ่งขึ้นไปอีก
กระทรวงอุตสาหกรรมญี่ปุ่นระบุว่า การระบายน้ำมัน 7.5 ล้านบาร์เรลของญี่ปุ่นนั้นเพียงพอต่อการอุปโภคภายในประเทศประมาณ 4 วัน ขณะเดียวกันรัฐบาลญี่ปุ่นวางแผนลดข้อกำหนดการกันน้ำมันสำรองของภาคเอกชนจาก 70 วันในปัจจุบัน เป็น 66 วันเป็นเวลา 1 เดือน
"เราจะเดินหน้ากระตุ้นให้บรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพิ่มผลผลิตต่อไป" นายฮากิอุดะกล่าว
ราคาน้ำมันโลกปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หลังสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มกระเตื้องขึ้น
อย่างไรก็ดี การประกาศระบายน้ำมันจากคลังสำรองของ IEA จนถึงขณะนี้ แทบไม่ส่งผลกระทบต่อการควบคุมราคาน้ำมัน