สมาคมผู้ใช้รถยนต์แห่งสหรัฐ (American Automobile Association หรือ AAA) เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันเบนซินเฉลี่ยในสหรัฐอยู่ที่ 4.009 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ซึ่งแตะระดับสูงสุดเมื่อนับตั้งแต่ปี 2551
รายงานระบุว่า ราคาน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 41 เซนต์ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซีย ปัจจุบัน ราคาน้ำมันอยู่ห่างจากระดับของเดือนก.ค. 2551 ที่ 4.114 ดอลลาร์ต่อแกลลอน เพียง 10 เซนต์
AAA กล่าวว่า "อุปสงค์น้ำมันที่เพิ่มขึ้นและอุปทานที่ลดลงนั้นผลักดันให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น แต่ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นนั้นก็ยิ่งดันให้ราคาสินค้าอื่น ๆ เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย"
ทั้งนี้ การสั่งระงับนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียไปยังสหรัฐและประเทศอื่น ๆ อาจจะยิ่งทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีความเสี่ยงมากขึ้นว่าอุปทานน้ำมันอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการในตลาด
ขณะเดียวกัน นายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวให้สัมภาษณ์ในรายการ "State of the Union" ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรในยุโรปกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะระงับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย โดยมีเป้าหมายที่จะตอบโต้รัสเซียกรณีใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน
นายบลิงเกนระบุว่า "ผมได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน และบรรดาสมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐในเรื่องน้ำมันของรัสเซีย และขณะนี้เรากำลังพูดคุยกับประเทศพันธมิตรของเราในยุโรป เพื่อหารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องสร้างความมั่นใจว่า อุปทานน้ำมันยังคงมีเพียงพอรองรับความต้องการในตลาดโลก"