นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเตือนว่า บรรดาประเทศในกลุ่มตะวันตกอาจเผชิญกับราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 300 ดอลลาร์/บาร์เรล และท่อส่งก๊าซหลักระหว่างรัสเซีย-เยอรมนีอาจถูกปิดลง หากรัฐบาลของชาติตะวันตกยังคงเดินหน้าแผนการระงับนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย
คำเตือนดังกล่าวมีขึ้น หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ภายหลังจากนายแอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐและชาติพันธมิตรในยุโรปกำลังพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะระงับการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้รัสเซียที่ใช้กำลังทหารบุกโจมตียูเครน
ทั้งนี้ นายโนวัคแถลงผ่านทางสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาลรัสเซียว่า "เห็นได้ชัดว่าการปฏิเสธน้ำมันจากรัสเซียจะนำไปสู่หายนะสำหรับตลาดโลก ผลที่ตามมาก็คือราคาน้ำมันจะพุ่งขึ้นสู่ระดับที่เหนือความคาดหมาย โดยอาจพุ่งขึ้นทะลุระดับ 300 ดอลลาร์/บาร์เรล"
นายโนวัคยังกล่าวด้วยว่า ยุโรปอาจต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปีจึงจะสามารถหาน้ำมันชดเชยส่วนที่นำเข้าจากรัสเซีย และยุโรปอาจจะต้องจ่ายราคาที่แพงขึ้นหากตัดสินใจแบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย
"นักการเมืองยุโรปควรเตือนพลเรือนของตนเองว่าอะไรจะเกิดขึ้น หากคุณปฏิเสธน้ำมันจากรัสเซีย ก็ทำได้เลย เราพร้อมรับมือกับสถานการณ์นี้ และเรารู้ว่าเราจะปรับทิศทางการส่งออกน้ำมันไปยังที่ใด" นายโนวัคกล่าว
นอกจากนี้ นายโนวัคยังขู่ว่า รัสเซียอาจจะระงับการลำเลียงก๊าซไปยังยุโรปผ่านทางท่อส่งนอร์ด สตรีม 1 (Nord Stream 1) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตอบโต้ชาติตะวันตกที่ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียในกรณีโจมตียูเครน โดยนายโนวัคกล่าวว่า รัสเซียมีสิทธิที่จะใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อตอบโต้ประเทศที่คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย
อย่างไรก็ดี นายโนวัคกล่าวว่า ขณะนี้รัสเซียยังไม่ได้ตัดสินใจที่จะปิดท่อส่งก๊าซนอร์ด สตรีม 1 และปัจจุบันท่อส่งแห่งนี้ยังคงลำเลียงก๊าซอย่างเต็มศักยภาพ