แหล่งข่าว 2 แห่งเปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นบีซีเมื่อวันพฤหัสบดี (7 เม.ย.) ว่า ข้อเสนอของสหภาพยุโรป (EU) ที่จะห้ามนำเข้าถ่านหินจากรัสเซียนั้น คาดว่าจะมีผลบังคับใช้แค่บางส่วนไปจนถึงช่วงกลางเดือนส.ค. ซึ่งช้ากว่าที่คาดไว้ 1 เดือน
คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้เสนอคำสั่งห้ามดังกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ เนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมากที่ชี้ให้เห็นว่า ทหารรัสเซียกระทำทารุณต่อชาวยูเครนในเมืองบูชาและในพื้นที่อื่น ๆ
เจ้าหน้าที่ EU เปิดเผยกับซีเอ็นบีซีว่า แผนเดิมคือยุติการนำเข้าถ่านหินภายในระยะเวลา 3 เดือน อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาดังกล่าวได้ถูกขยายออกไปเป็น 4 เดือน ส่งผลให้จะเริ่มมีการห้ามนำเข้าอย่างเต็มรูปแบบตั้งแต่ช่วงกลางเดือนส.ค.เป็นต้นไป
เจ้าหน้าที่จาก EU อีกรายยืนยันกับซีเอ็นบีซีเมื่อวานนี้ว่า "ดูเหมือนว่าเยอรมนีจะทำการล็อบบี้เพื่อขยายระยะเวลาการยุติสัญญาถ่านหินที่มีอยู่ออกไปเป็น 4 เดือนได้สำเร็จ"
ทั้งนี้ เยอรมนี, ออสเตรีย และฮังการี เป็นหนึ่งในประเทศที่พึ่งพาพลังงานจากรัสเซียมากที่สุด และโต้แย้งว่าการห้ามจัดหาพลังงานจากรัสเซียอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศของตนมากกว่าของรัสเซีย
ตัวอย่างเช่น ข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) ระบุว่า ในปี 2563 เยอรมนีมีการนำเข้าพลังงานจากรัสเซีย โดยเป็นถ่านหิน 21.5%, น้ำมัน 35.2% และก๊าซธรรมชาติ 58.9%