ตัวแทนจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้แจ้งต่อกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันนี้ว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นมีสาเหตุจากวิกฤตการณ์ในยูเครน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าโอเปกจะไม่เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันในขณะนี้
"ราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยส่วนใหญ่เกิดจากความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ในยุโรปตะวันออก ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะขาดแคลนน้ำมัน" โอเปกแจ้งต่อคณะกรรมการชุดหนึ่งของ IMF
นอกจากนี้ โอเปกยังระบุว่า โอเปกและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะรับประกันความมีเสถียรภาพของอุปสงค์และอุปทานในตลาดน้ำมันในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ในยูเครนเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ โอเปกพลัสมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันเพียง 432,000 บาร์เรล/วันในเดือนพ.ค. แม้ว่าสหรัฐและหลายชาติที่นำเข้าน้ำมันต่างเรียกร้องให้โอเปกพลัสเพิ่มการผลิตให้มากขึ้นกว่าในระดับปัจจุบัน ขณะที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นเหนือระดับ 139 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 หลังจากที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 ก.พ.