นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เปิดเผยว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์จำเป็นต้องมีบทบาทเพิ่มขึ้น ขณะที่ยุโรปแสวงหาแนวทางลดการพึ่งพาพลังงานจากรัสเซีย
"โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยให้เราลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล รวมถึงก๊าซและน้ำมันจากรัสเซีย" นายจอห์นสันกล่าวระหว่างเยือนโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฮาร์ทลีพูลเมื่อวันจันทร์ (2 พ.ค.)
นอกจากนั้น เขายังยังทวีตข้อความว่า "แทนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ทุก 10 ปี เราจะสร้างเพิ่มขึ้นทุกปี เพื่อให้มีพลังงานสะอาด ปลอดภัย และมีเสถียรภาพ"
เมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา นายจอห์นสันได้พูดถึงข้อดีของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยระบุว่า พลังงานนิวเคลียร์เป็นแหล่งพลังงานที่สะอาด มีเสถียรภาพ และใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง"
นอกจากนี้ รัฐบาลอังกฤษยังร่างแผนการเพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ในประเทศเป็น 24 กิกะวัตต์ภายในปี 2593 โดยปัจจุบันอังกฤษผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ คิดเป็น 21% ของความต้องการใช้พลังงานในประเทศในช่วงปี 2563 โดยเพิ่มขึ้นจาก 9.4% เมื่อปี 2543
สำนักข่าวซีเอ็นบีซีรายงานว่า การตัดสินใจของอังกฤษเพื่อเพิ่มแหล่งพลังงานนิวเคลียร์ แตกต่างไปจากแนวทางของเยอรมนี ซึ่งประกาศแผนการสร้างคลังก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) แห่งใหม่ แทนการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์
ทางด้านฝรั่งเศสนั้นสนับสนุนการใช้พลังงานนิวเคลียร์มาอย่างยาวนาน โดยใช้พลังงานนิวเคลียร์คิดเป็น 70% ในการผลิตกระแสไฟฟ้า