นายอามิน นาสเซอร์ ซีอีโอของซาอุดี อารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของซาอุดีอาระเบีย ออกมาเตือนว่า โลกกำลังเผชิญกับภาวะอุปทานน้ำมันหดตัว เนื่องจากบริษัทส่วนใหญ่ไม่กล้าลงทุนในธุรกิจภาคนี้เพราะต้องเผชิญกับแรงกดดันด้านพลังงานสะอาด
นายนาสเซอร์กล่าวเมื่อวานนี้ (23 พ.ค.) ว่า เขายังคงยึดมั่นตามแผนการขยายกำลังการส่งออกน้ำมันเป็น 13 ล้านบาร์เรล/วัน (bpd) จากปัจจุบันที่ 12 ล้าน bpd แม้จะมีการเรียกร้องให้ดำเนินการเร็วขึ้น
ทั้งนี้ นายนาสเซอร์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์นอกรอบการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (WEF) ที่เมืองดาวอส โดยระบุว่า ขณะนี้โลกกำลังดำเนินไปด้วยปริมาณน้ำมันสำรองน้อยกว่า 2% ซึ่งก่อนโรคโควิด-19 ระบาดนั้น อุตสาหกรรมการบินบริโภคน้ำมันมากกว่าทุกวันนี้ถึง 2.5 ล้าน bpd ดังนั้นหากอุตสาหกรรมการบินเริ่มฟื้นตัวขึ้น อาจทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้
"สถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างรัสเซียกับยูเครนได้อำพรางปัญหาที่จะเกิดขึ้น เรากำลังเผชิญวิกฤตด้านพลังงานเนื่องจากการขาดแคลนการลงทุน และมันเริ่มส่งผลกระทบต่อจากการระบาดแล้ว" นายนาสเซอร์กล่าว
นายนาสเซอร์คาดว่า มาตรการคุมเข้มต้านเชื้อโควิด-19 ของจีนจะอยู่ได้ไม่นาน และอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะกลับมาเติบโตอีกครั้ง
ขณะนี้ซาอุฯผลิตน้ำมันอยู่ที่ 10.5 ล้าน bpd หรือคิดเป็นอัตราส่วน 1 ใน 10 ของโลก และมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นเป็น 11 ล้าน bpd ภายในปลายปีนี้หากข้อตกลงระหว่างกลุ่มโอเปคและพันธมิตรเช่นรัสเซียสิ้นสุดลง