ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ระบุว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ได้ใช้อำนาจประธานาธิบดีออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวต่อการนำเข้าอุปกรณ์เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ หรือแผงโซลาร์เซลล์จากไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา โดยจัดให้เป็นสินค้าปลอดภาษีนำเข้าเป็นเวลา 24 เดือน
นอกจากนี้ ปธน.ไบเดนยังได้ประกาศใช้กฎหมายการผลิตเพื่อปกป้องประเทศ (PDA) ในการสนับสนุนให้ภาคเอกชนของสหรัฐทำการผลิตแผงโซลาร์เซลล์และพัฒนาพลังงานสะอาด โดยได้รับเงินกู้และเงินให้เปล่าจากทางรัฐบาล
แถลงการณ์ระบุว่า มาตรการดังกล่าวของปธน.ไบเดนมีขึ้น เพื่อเป็น "สะพานเชื่อมต่อ" ในช่วงที่ภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐเพิ่มกำลังการผลิตแผงโซลาร์เซลล์ และผลักดันนโยบายพลังงานสะอาดของปธน.ไบเดน
"การมีภาคพลังงานสะอาดที่แข็งแกร่งจะทำให้สหรัฐเป็นหุ้นส่วนที่เข้มแข็งขึ้นต่อพันธมิตรของเรา โดยเฉพาะในขณะที่ประธานาธิบดีปูตินกำลังทำสงครามกับยูเครน" แถลงการณ์ระบุ
ภาคอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ของสหรัฐต่างแสดงความยินดีต่อการประกาศมาตรการดังกล่าวของปธน.ไบเดน
"การดำเนินการของท่านประธานาธิบดีเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นมาก ซึ่งภายในช่วงเวลา 2 ปีนี้ ภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐจะสามารถกลับมาติดตั้งโซลาร์เซลล์มากขึ้น และการประกาศใช้กฎหมาย PDA จะช่วยให้อุตสาหกรรมมีการขยายตัวมากขึ้น" นางอบีเกล รอสส์ ฮอปเปอร์ ประธานสมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ (SEIA) กล่าว
ปธน.ไบเดนออกคำสั่งดังกล่าว หลังได้รับการร้องเรียนจากภาคอุตสาหกรรม สมาชิกสภาคองเกรส และผู้ว่าการรัฐของสหรัฐเกี่ยวกับผลกระทบจากการที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐทำการสอบสวนการนำเข้าอุปกรณ์ดังกล่าวว่าเป็นการช่วยให้จีนหลีกเลี่ยงมาตรการทางด้านภาษีจากทางสหรัฐหรือไม่ ซึ่งหากผิดจริงจะทำให้มีการเรียกเก็บภาษีย้อนหลังสูงถึง 250%
"การสอบสวนดังกล่าวได้ทำให้อุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์หยุดชะงักลง และจะกระทบต่อธุรกิจโซลาร์เซลล์ของสหรัฐและคนงานในอุตสาหกรรม รวมทั้งจะเพิ่มค่าใช้จ่ายต่อภาคครัวเรือนของชาวอเมริกัน" เนื้อหาในจดหมายร้องเรียนระบุ
ทั้งนี้ สหรัฐนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จาก 4 ประเทศดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วน 80% ของการนำเข้าทั้งหมด
ก่อนหน้านี้ Auxin Solar ซึ่งเป็นบริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ยื่นฟ้องต่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเพื่อให้มีการสอบสวนว่า ผู้ผลิตของจีนได้โยกย้ายฐานการผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์เข้าสู่ไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชาเพื่อหลีกเลี่ยงมาตรการภาษีจากทางสหรัฐหรือไม่
ทางด้านสมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ (SEIA) เตือนว่าการสอบสวนดังกล่าวจะส่งผลให้การลงทุนในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ในสหรัฐหยุดชะงักลง หลังจากที่ได้ชะลอตัวลงแล้วอันเนื่องจากต้นทุนในระดับสูง ความล่าช้าในการขนส่งสินค้า รวมทั้งปัญหาคอขวดในห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจะเป็นปัจจัยขัดขวางนโยบายของปธน.ไบเดนที่ต้องการสนับสนุนโครงการใช้พลังงานหมุนเวียนในสหรัฐ
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่า แม้ปธน.ไบเดนออกคำสั่งคุ้มครองการนำเข้าแผงโซลาร์เซลล์จากทั้ง 4 ประเทศในวันนี้ แต่การสอบสวนจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะยังคงดำเนินต่อไป และหากปรากฎว่าผิดจริง ทางกระทรวงก็จะสามารถเรียกเก็บภาษีได้ แต่จะต้องพ้นกำหนดเวลา 24 เดือนนับจากที่ปธน.ไบเดนกำหนดให้แผงโซลาร์เซลล์ดังกล่าวเป็นสินค้าปลอดภาษี และกระทรวงจะไม่สามารถเรียกเก็บภาษีย้อนหลังต่อการนำเข้าสินค้าดังกล่าว