กระทรวงพลังงานและเหมืองแร่ของเอกวาดอร์ระบุว่า เอกวาดอร์อาจต้องระงับการผลิตน้ำมันใน 48 ชั่วโมงข้างหน้า หากการประท้วงของกลุ่มคนพื้นเมืองและการปิดถนนยังคงดำเนินต่อไป ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมน้ำมันของเอกวาดอร์ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากเหตุดังกล่าว รวมถึงการปิดบ่อน้ำมันในประเทศ
"หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป การผลิตน้ำมันของประเทศจะถูกระงับในอีก 48 ชั่วโมง เพราะการกระทำที่สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สิน รวมถึงการบุกยึดบ่อน้ำมัน และปิดถนน ซึ่งทำให้ไม่สามารถขนส่งอุปทานน้ำมันและน้ำมันดีเซลที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการต่าง ๆ ได้" นายซาเวียร์ เวรา รัฐมนตรีพลังงานและเหมืองแร่ของเอกวาดอร์กล่าว
ทั้งนี้ การประท้วงเพื่อขับไล่รัฐบาลเมื่อช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้การผลิตน้ำมันลดลงกว่า 1.3 ล้านบาร์เรล โดยบริษัทเปโตรเอกวาดอร์ (Petroecuador) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยสูญเสียกำลังการผลิตน้ำมันดิบไปแล้ว 1,061,875 บาร์เรล
ขณะที่ผู้ผลิตน้ำมันรายอื่น ๆ ที่ดำเนินงานในประเทศ รายงานว่าสูญเสียน้ำมันไป 272,223 บาร์เรลจากเหตุประท้วงในครั้งนี้ ซึ่งทำให้ต้องปิดบ่อน้ำมันไปแล้ว 1,176 แห่ง โดยในจำนวนนี้มี 996 แห่งเป็นของบริษัทเปโตรเอกวาดอร์ ส่วนอีก 180 แห่งเป็นของบริษัทอื่น
ทั้งนี้ น้ำมันดิบเป็นสินค้าหลักที่เอกวาดอร์ส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักสำหรับงบประมาณของประเทศ
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การประท้วงซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น เกิดขึ้นหลังจากที่สมาพันธ์ชนพื้นเมืองของเอกวาดอร์ (CONAIE) ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยอมรับข้อเรียกร้องต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจและสังคม
จนถึงขณะนี้ CONAIE ระบุว่า มีผู้ชุมนุมเสียชีวิตแล้ว 5 ราย ในขณะที่ทางการเอกวาดอร์ระบุว่ามีพลเรือนเสียชีวิต 4 รายระหว่างการประท้วง และอีก 2 รายเสียชีวิตบนรถพยาบาลซึ่งถูกปิดล้อมจนทำให้เข้าถึงการรักษาพยาบาลล่าช้า