กระทรวงพลังงานอินโดนีเซียเผยในวันนี้ (27 ก.ค.) ว่า อินโดนีเซียได้เปิดการทดสอบรถยนต์ที่ใช้ไบโอดีเซลโดยมีส่วนผสมของน้ำมันปาล์ม 40% เพื่อหาข้อสรุปว่า จะสามารถใช้งานบนถนนสาธารณะได้ในช่วงปลายปีนี้หรือไม่
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลอินโดนีเซียมีคำสั่งให้น้ำมันดีเซลที่จำหน่ายในประเทศต้องผสมน้ำมันปาล์มอยู่ที่ 30% ซึ่งเป็นอัตราส่วนผสมสูงสุดที่ใช้ทั่วโลก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มรายใหญ่ที่สุดของโลก มีแผนเพิ่มความเข้มข้นของน้ำมันปาล์มในน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อใช้ในระยะยาวสำหรับยานพาหนะทุกประเภท ทั้งรถยนต์และเครื่องบิน เพื่อลดการนำเข้าเชื้อเพลิง
นอกจากนี้ อินโดนีเซียได้ดำเนินการทดสอบเครื่องบินโดยใช้น้ำมันเชื้อเพลิงผสมกับน้ำมันปาล์มในปีที่ผ่านมา ส่วนเมื่อเร็ว ๆ นี้ เจ้าหน้าที่ได้ผลักดันให้ใช้น้ำมันปาล์มผสมน้ำมันเชื้อเพลิงในสัดส่วนที่สูงขึ้นเพื่อระบายน้ำมันปาล์มส่วนเกิน
สำหรับเชื้อเพลิงที่อินโดนีเซียจะทดสอบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าประกอบด้วยน้ำมันดีเซลผสมกับกรดไขมันเมทิลเอสเทอร์ (FAME) 40% หรือที่เรียกว่า B40 และ B30D10 ซึ่งเป็นน้ำมันดีเซลที่ผสมกรดไขมัน FAME 30% และผสมกับไบโอดีเซลที่มาจากน้ำมันปาล์ม RBDPO อีก 10%
ทางด้านนายดาดาน คุสเดียนา ผู้อำนวยการฝ่ายพลังงานหมุนเวียนของกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า น้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าวจะทดสอบกับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลและรถเพื่อการพาณิชย์ในรุ่นยอดนิยม 12 รุ่น เป็นระยะทางกว่า 50,000 กม. (31,000 ไมล์) และ 40,000 กม. ตามลำดับ