นางนาคาโนะกล่าวในรายการ Squawk Box Asia ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า "ดิฉันคิดว่าทั้งจีนและอินเดียมีศักยภาพที่จะเป็นมหาอำนาจด้านพลังงาน ไม่ใช่แค่ศักยภาพที่จะเป็นซัพพลายเออร์และผู้ส่งออกพลังงานไฮโดรเจนสะอาดเท่านั้น แต่ยังในฐานะผู้บริโภคและผู้ใช้พลังงานไฮโดรเจนสะอาดด้วย"
อย่างไรก็ตาม นางนาคาโนะตั้งข้อสังเกตว่า จีนกำลังผลิตและใช้พลังงานไฮโดรเจนสีเทา ซึ่งเป็นไฮโดรเจนประเภทที่ได้จากก๊าซธรรมชาติและผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ซึ่งเป็นไฮโดรเจนที่หมุนเวียนน้อยที่สุด
นอกจากนี้ พลังงานไฮโดรเจนสะอาดยังมีต้นทุนในการผลิตที่สูงและอุตสาหกรรมดังกล่าวยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น
ปัจจุบันจีนเป็นผู้ผลิตไฮโดรเจนรายใหญ่ที่สุดของโลกที่ประมาณ 33 ล้านตันต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ขณะที่อินเดียมีแผนที่จะผลิตพลังงานไฮโดรเจนสีเขียว 5 ล้านตันต่อปีภายในปี 2573 แต่ไฮโดรเจนเกือบทั้งหมดที่ผลิตในประเทศยังเป็นไฮโดรเจนสีเทาอยู่
ทั้งนี้ ไฮโดรเจนมีศักยภาพที่จะมีบทบาทสำคัญในการรับมือกับวิกฤติการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพราะพลังงานที่ไฮโดรเจนสร้างขึ้นไม่ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ แต่อีกด้านหนึ่ง ไฮโดรเจนก็เป็นก๊าซที่มีแนวโน้มจะรั่วไหลและสร้างผลกระทบในการทำให้โลกร้อนได้ ซึ่งหากจัดการไม่ดีจะทำให้ภาวะโลกร้อนรุนแรงขึ้นอีก