ออฟเจม (Ofgem) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลกฎระเบียบด้านพลังงานของอังกฤษประกาศในวันนี้ (26 ส.ค.) ว่าจะปรับเพิ่มเพดานราคาพลังงานสำหรับผู้บริโภคโดยเฉลี่ยเป็น 3,549 ปอนด์ต่อปี โดยเพิ่มขึ้น 80% จาก 1,971 ปอนด์นับตั้งแต่เดือนต.ค.ศกนี้ ในขณะที่บรรดากลุ่มนักเคลื่อนไหว นักวิชาการ และนักการเมืองเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษเร่งแก้ไขวิกฤตค่าครองชีพสูง
ทั้งนี้ เพดานราคาพลังงานเป็นขีดจำกัดที่บริษัทให้บริการพลังงานสามารถเรียกเก็บค่าธรรมเนียมค่าไฟฟ้าและค่าก๊าซจากลูกค้าในอังกฤษ สกอตแลนด์ และเวลส์ แต่ออฟเจมได้ทำการประเมินเพดานค่าพลังงานอีกครั้งในปีนี้เพื่อให้สะท้อนกับราคาสินค้าในตลาดค้าส่ง และต้นทุนอุตสาหกรรมอื่น ๆ
ราคาก๊าซพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปีที่ผ่านมา หลังอุปสงค์ทั่วโลกเพิ่มสูงขึ้นโดยเฉพาะในยุโรป เนื่องจากคลังสำรองก๊าซลดลงสู่ระดับต่ำและการระงับนำเข้าก๊าซจากรัสเซียเพื่อลงโทษรัสเซียฐานรุกรานยูเครน ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ราคาไฟฟ้าพุ่งสูงขึ้น
ในช่วงต้นเดือนนี้ ออฟเจมประกาศว่าจะทบทวนเพดานราคาพลังงานทุก 3 เดือน แทนที่จะเป็นทุก 6 เดือนเช่นในอดีต เพื่อให้สะท้อนความผันผวนของตลาดในปัจจุบัน
คอร์นวอลล์ อินไซต์ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาคาดการณ์ว่า เพดานราคาพลังงานอาจปรับขึ้นแตะ 4,649.72 ปอนด์ในไตรมาสแรกของปี 2566 และ 5,341.08 ปอนด์ในไตรมาส 2/2566 ก่อนลดลงเล็กน้อยสู่ 4,767.97 ในไตรมาส 3 ของปีเดียวกัน
สำหรับราคาพลังงานเฉลี่ยรายปีในเดือนต.ค. 2564 อยู่ที่ 1,400 ปอนด์ ขณะที่ในปัจจุบันอยู่ที่ 1,971 ปอนด์