ประเทศต่าง ๆ กำลังหันมาสนับสนุนการใช้พลังงานนิวเคลียร์ และเร่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่พลังงานที่สะอาดและเชื่อถือได้มากขึ้น เนื่องจากการที่รัสเซียรุกรานยูเครนส่งผลให้ราคาก๊าซและถ่านหินทั่วโลกพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า วิกฤตพลังงานทั่วโลกทำให้ภูมิภาคเอเชียต้องหันมาสนับสนุนอุตสาหกรรมพลังงานนิวเคลียร์อีกครั้งหลังจากที่เคยหลีกเลี่ยง โดยรัฐบาลญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังทำการยกเลิกนโยบายต่อต้านนิวเคลียร์ ขณะที่จีนและอินเดียเตรียมที่จะสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เพิ่มขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะขาดแคลนพลังงานในอนาคตและควบคุมการปล่อยมลพิษ และแม้กระทั่งประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็กำลังทำการสำรวจเทคโนโลยีนิวเคลียร์
การสนับสนุนพลังงานนิวเคลียร์เกิดขึ้น หลังจากราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินซึ่งใช้ในการผลิตพลังงานส่วนใหญ่ของเอเชีย พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ซึ่งเป็นผลจากการทำสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ในขณะที่ทั่วโลกคว่ำบาตรพลังงานจากรัสเซียซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันยังคงตึงตัว และราคาพลังงานจะพุ่งสูงขึ้นต่อไปในอนาคต
ผู้กำหนดนโยบายของประเทศต่าง ๆ ได้หันมาให้ความสนใจพลังงานนิวเคลียร์ซึ่งมีความสะอาดและเชื่อถือได้ โดยหวังว่าการใช้พลังงานนิวเคลียร์จะช่วยควบคุมเงินเฟ้อ, บรรลุเป้าหมายในการรักษาสิ่งแวดล้อม และลดพึ่งพาการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ
"การต่อต้านพลังงานนิวเคลียร์กำลังพังทลายลงอย่างรวดเร็ว" เดวิด เฮสส์ นักวิเคราะห์นโยบายของสมาคมนิวเคลียร์โลกกล่าว "โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่มีอยู่แล้วผลิตไฟฟ้าได้ในราคาถูกที่สุด ราคาก๊าซธรรมชาติที่พุ่งทะยานขึ้นทำให้ความได้เปรียบทางเศรษฐกิจที่ชัดเจนเหล่านี้ มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น"