รัฐมนตรีพลังงานของสหภาพยุโรป (EU) เตรียมจัดการประชุมฉุกเฉินในวันที่ 9 ก.ย.เพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป
ทั้งนี้ ก๊าซพรอม ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซีย ประกาศลดการจัดส่งก๊าซให้แก่ฝรั่งเศส โดยเริ่มตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากมีความขัดแย้งกับฝรั่งเศสเกี่ยวกับสัญญาจัดส่งก๊าซ
นอกจากนี้ ก๊าซพรอมจะปิดท่อส่ง Nord Stream 1 ซึ่งจัดส่งก๊าซไปยังเยอรมนี ในวันที่ 31 ส.ค.-2 ก.ย. โดยอ้างว่าเพื่อทำการซ่อมบำรุง
มีการคาดการณ์กันว่า การปิดท่อส่งก๊าซดังกล่าวจะส่งผลให้ยุโรปเผชิญวิกฤตพลังงาน ซึ่งจะทำให้ราคาก๊าซพุ่งขึ้น และเงินเฟ้อดีดตัวขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจอาจเผชิญภาวะถดถอย
นางแอกเนส ปองนิเยร์-รูนาแชร์ รัฐมนตรีกระทรวงเปลี่ยนผ่านพลังงานของฝรั่งเศส กล่าวว่า รัสเซียกำลังใช้อุปทานพลังงานเป็น "อาวุธสงคราม"
ทั้งนี้ ชาติตะวันตกมองว่า รัสเซียกำลังดำเนินมาตรการเพื่อกดดันให้ยุโรปลดการสนับสนุนยูเครนในการสู้รบกับรัสเซีย
"เห็นได้ชัดว่ารัสเซียกำลังใช้ก๊าซเป็นอาวุธสงคราม และเราจะต้องเตรียมรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่เราอาจจะถูกรัสเซียระงับการส่งก๊าซโดยสิ้นเชิง" นางปองนิเยร์-รูนาแชร์กล่าว
ด้านเยอรมนีประกาศว่ารัฐบาลพร้อมที่จะพิจารณาออกมาตรการกำหนดเพดานราคาก๊าซ ขณะที่อิตาลีเห็นพ้องกับมาตรการดังกล่าว รวมทั้งเรียกร้องให้มีการแยกการคิดค่าไฟฟ้าออกจากราคาก๊าซ ซึ่งจะทำให้ภาคครัวเรือนได้รับประโยชน์จากค่าไฟที่ถูกลงซึ่งมีการผลิตจากแหล่งพลังงานทางเลือก
ขณะเดียวกัน เนเธอร์แลนด์เสนอให้มีการยกเว้นมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเป็นการชั่วคราว ซึ่งมาตรการดังกล่าวบังคับให้รัฐบาลของชาติต่างๆในยุโรปจะต้องยกเลิกสัญญาที่ทำไว้กับบริษัทของรัสเซียภายในวันที่ 10 ต.ค.