นางลิซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ เตรียมกำหนดเพดานราคาค่าไฟของผู้บริโภคที่พุ่งทะยานขึ้นในวันนี้ (8 ก.ย.) พร้อมส่งเสริมแหล่งพลังงานใหม่ ในแผนสนับสนุนด้านพลังงานวงเงินกว่า 1 แสนล้านปอนด์ (1.15 แสนล้านดอลลาร์) ที่ออกแบบมาเพื่อบรรเทาผลกระทบของภาวะตื่นตระหนกทางเศรษฐกิจอันเป็นผลมาจากสงครามในยูเครน
ทั้งนี้ อังกฤษกำลังเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยอันยาวนานที่เกิดจากค่าไฟฟ้าภาคครัวเรือนที่พุ่งขึ้นเกือบ 4 เท่า โดยนางทรัสส์เปิดเผยว่า จะเร่งดำเนินการแก้ปัญหาค่าพลังงานทันทีเพื่อปกป้องผู้บริโภค
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การกู้ยืมเงินเพิ่มมากขึ้นเพื่อนำมาใช้ในแผนสนับสนุนด้านพลังงานดังกล่าว ควบคู่ไปกับการให้คำมั่นว่าจะปรับลดภาษีของนางทรัสส์ทำให้ตลาดเงินผันผวน โดยในวันพุธ (7 ก.ย.) ค่าเงินปอนด์ร่วงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2528 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
ธนาคารดอยซ์แบงก์เปิดเผยว่า การชดเชยราคาพลังงานและคำสัญญาว่าจะปรับลดภาษีอาจต้องใช้เงิน 1.79 แสนล้านปอนด์ หรือประมาณครึ่งหนึ่งของที่อังกฤษใช้ไปในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้ คาดการณ์กันว่า รัฐบาลอังกฤษจะหาแหล่งพลังงานใหม่ ซึ่งรวมถึงการออกใบอนุญาตสำรวจและขุดเจาะน้ำมันและก๊าซในทะเลเหนือถึง 130 ใบ และยกเลิกการสั่งห้ามการขุดเจาะน้ำมันด้วยวิธีแฟรกกิ้ง (fracking) ถ้าหากว่าคนในพื้นที่ยินยอม