ทำเนียบขาวแสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินใจของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในการปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่วานนี้ ซึ่งสวนทางความต้องการของสหรัฐ
ล่าสุด ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้สั่งการให้กระทรวงพลังงานสหรัฐทำการระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) อีก 10 ล้านบาร์เรลในเดือนพ.ย.เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐกำลังปรึกษาหารือกับสภาคองเกรสเพื่อหาทางลดอำนาจการควบคุมราคาน้ำมันของโอเปกพลัส โดยจะมีการออกกฎหมายเพื่อเปิดช่องให้มีการฟ้องร้องโอเปกพลัสในคดีต่อต้านการผูกขาดตลาด
ทั้งนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวมีชื่อว่า "โนเปก" (No Oil Producing and Exporting Cartels) หรือ NOPEC โดยร่างกฎหมายดังกล่าวถูกร่างขึ้นเพื่อปกป้องผู้บริโภคและภาคธุรกิจสหรัฐจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันโดยไม่มีเหตุอันควร (artificial oil spikes)
ขณะนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการชุดเล็กของวุฒิสภาในเดือนพ.ค.แล้ว และจำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมเต็มคณะของวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ รวมทั้งได้รับการลงนามจากปธน.ไบเดน ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย
หากกฎหมาย "โนเปก" มีผลบังคับใช้ จะทำให้ประเทศในกลุ่มโอเปกพลัสมีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องในคดีสมรู้ร่วมคิดปรับลดกำลังการผลิตเพื่อผลักดันราคาน้ำมันในตลาด