แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ เตรียมประกาศระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) จำนวน 10-15 ล้านบาร์เรลในวันนี้เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน ขณะใกล้ถึงกำหนดการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.
ทั้งนี้ ปธน.ไบเดนประกาศในเดือนมี.ค.ว่าจะระบายน้ำมันรวม 180 ล้านบาร์เรลในเดือนพ.ค.-ต.ค. และขณะนี้เขาได้ทำการระบายน้ำมันแล้วจำนวน 165 ล้านบาร์เรล ทำให้มีการคาดการณ์ว่าปธน.ไบเดนจะสั่งระบายน้ำมันที่เหลืออีก 15 ล้านบาร์เรลในวันนี้
การตัดสินใจของปธน.ไบเดนดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ในช่วงต้นเดือนนี้ ซึ่งสวนทางความต้องการของสหรัฐ
ที่ผ่านมา สหรัฐพยายามกดดันซาอุดีอาระเบียและโอเปกพลัสเพื่อให้เพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากปธน.ไบเดนกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นจะกระทบต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนหน้า
นอกจากนี้ รัฐบาลสหรัฐได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสให้ระบายน้ำมันอีก 26 ล้านบาร์เรลจาก SPR ในปีงบประมาณ 2566 ซึ่งเริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 ต.ค. โดยคาดว่าจะมีการระบายน้ำมันตามโควตาดังกล่าวในไม่ช้า
รัฐบาลสหรัฐยังได้แจ้งให้บริษัทน้ำมันทำการขายน้ำมันอีก 26 ล้านบาร์เรลจากที่ได้รับอนุมัติจากสภาคองเกรสสำหรับการจำหน่ายน้ำมันในปีงบประมาณ 2566
ขณะเดียวกัน รัฐบาลเรียกร้องโรงกลั่นน้ำมันสหรัฐหลีกเลี่ยงการเพิ่มการส่งออกน้ำมัน และระบุว่าอาจมีการสั่งห้ามการส่งออกเพื่อให้มีปริมาณเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศ
อย่างไรก็ดี หลายฝ่ายเตือนว่าการห้ามการส่งออกน้ำมันจะซ้ำเติมวิกฤตพลังงานในยุโรป และจะส่งผลกระทบย้อนกลับทำให้ราคาพลังงานพุ่งขึ้นในสหรัฐ