ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การที่ราคาน้ำมันไม่ได้ปรับตัวลง แม้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ประกาศระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เป็นการบ่งชี้ว่าสหรัฐได้สูญเสียอิทธิพลในตลาดน้ำมัน
"ความล้มเหลวในการสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน เป็นหลักฐานแสดงว่าสหรัฐได้สูญเสียอิทธิพลในตลาดน้ำมันโลก" นายสตีเฟน เบรนนอค นักวิเคราะห์จาก PVM Oil กล่าว
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI พุ่งขึ้นเหนือระดับ 87 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้ปัจจัยหนุนจากภาวะน้ำมันตึงตัวในตลาด และแนวโน้มที่จีนจะผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มในการสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ แถลงวานนี้ว่า รัฐบาลจะระบายน้ำมันจาก SPR จำนวน 15 ล้านบาร์เรลเพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
ปธน.ไบเดนตัดสินใจดังกล่าว หลังจากที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ในช่วงต้นเดือนนี้ ซึ่งสวนทางความต้องการของสหรัฐ
ที่ผ่านมา สหรัฐพยายามกดดันซาอุดีอาระเบียและโอเปกพลัสเพื่อให้เพิ่มกำลังการผลิต เนื่องจากปธน.ไบเดนกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นจะกระทบต่อคะแนนนิยมของรัฐบาลก่อนการเลือกตั้งกลางเทอมในวันที่ 8 พ.ย.
ปธน.ไบเดนประกาศในเดือนมี.ค.ว่าจะระบายน้ำมันรวม 180 ล้านบาร์เรลในเดือนพ.ค.-ต.ค. และเขาได้ทำการระบายน้ำมันแล้วจำนวน 165 ล้านบาร์เรล ทำให้ปธน.ไบเดนสั่งระบายน้ำมันที่เหลืออีก 15 ล้านบาร์เรลเมื่อวานนี้