สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เกิดปัญหาคอขวดบริเวณช่องแคบบอสฟอรัสของตุรกี ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าน้ำมันที่สำคัญ และหากไม่ได้รับการแก้ไขก็อาจส่งผลกระทบต่ออุปทานโลกและทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น
สำนักงานขนส่งทริเบกาจากตุรกีรายงานว่า ณ วันพฤหัสบดี (8 ธ.ค.) มีเรือบรรทุกน้ำมัน 16 ลำที่เดินทางลงใต้จากทะเลดำกำลังรอข้ามช่องแคบบอสฟอรัสเพื่ออกสู่ทะเลมาร์มารา ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเพียง 5 ลำในวันอังคาร (6 ธ.ค.) และยังมีเรือบรรทุกน้ำมันอีก 9 ลำรอเดินทางจากทะเลมาร์มาราผ่านช่องแคบดาร์ดาเนลส์เพื่อออกสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
เจ้าหน้าที่ตุรกีระบุว่า ปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมันดิบไปยังยุโรปเป็นส่วนใหญ่ และรัฐบาลสหรัฐและอังกฤษกำลังอยู่ในระหว่างเจรจากับทางตุรกีเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว
รายงานระบุว่า ปัญหาดังกล่าวเกี่ยวข้องกับมาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันของรัสเซียที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันจันทร์ (5 ธ.ค.) ซึ่งมาตรการดังกล่าวควรจะจำกัดรายได้ของรัสเซียโดยไม่ไปลดอุปทานน้ำมันโลก แต่ทางตุรกียืนยันว่า เรือบรรทุกน้ำมันทุกลำต้องแสดงตัวว่ามีประกันก่อนจะได้รับอนุญาตให้ผ่านไปได้
ทั้งนี้ มาตรการจำกัดเพดานราคาน้ำมันจะทำให้เจ้าของเรือที่บรรทุกน้ำมันจากรัสเซียไม่สามารถเข้าถึงประกันและบริการอื่น ๆ จากผู้ให้บริการในยุโรปได้เว้นแต่จะขายน้ำมันในราคาไม่เกิน 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ทั้งนี้ ฮอร์เก้ เลออน รองประธานอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ตลาดน้ำมันของไรสแต็ด เอ็นเนอร์จีกล่าวว่า แม้ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวจะยังไม่ทำให้อุปทานน้ำมันโลกติดขัดหรือส่งผลกระทบต่อราคา แต่หากยืดเยื้อต่อไปก็อาจกลายเป็นปัญหาได้ พร้อมเสริมว่า "นี่เป็นเส้นทางการค้าโลกที่เป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะสำหรับน้ำมันดิบ"