นายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเปิดเผยกับสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียว่าว่า รัสเซียอาจเพิ่มการส่งออกน้ำมันดิบ หากกรณีที่สหภาพยุโรป (EU) สั่งห้ามนำเข้าเชื้อเพลิงจากรัสเซียส่งผลให้ปริมาณการกลั่นน้ำมันในรัสเซียปรับตัวลดลง
นายโนวัคระบุว่า "หากยอดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าวของ EU รัสเซียก็จะแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มปริมาณการส่งออก อย่างไรก็ดี เราคาดว่ามีความเป็นไปได้ที่การสั่งห้ามนำเข้าน้ำมันของ EU จะไม่ส่งผลกระทบต่อการกลั่นน้ำมันในรัสเซีย"
นอกจากนี้ นายโนวัคกล่าวว่า รัสเซียจะผลิตน้ำมันอย่างน้อย 490-500 ล้านตันในปีหน้า ส่วนในปีนี้ รัสเซียอาจผลิตน้ำมันได้ 535 ล้านตัน
กลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ G7 รวมทั้ง EU และออสเตรเลียได้บังคับใช้เพดานราคาน้ำมันรัสเซียในวันที่ 5 ธ.ค. โดยจะมีผลบังคับใช้ต่อผลผลิตน้ำมันของรัสเซียที่มีการขนส่งผ่านทางเรือบรรทุกน้ำมัน แต่ไม่รวมน้ำมันที่มีการขนส่งผ่านท่อส่งน้ำมัน
ทั้งนี้ มาตรการกำหนดเพดานราคาน้ำมันรัสเซียมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้รัสเซียมีรายได้ลดลงจากการจำหน่ายน้ำมันที่จะนำไปสนับสนุนการทำสงครามในยูเครน แต่ก็จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลกจนทำให้เกิดภาวะขาดแคลน