สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า หลายประเทศในเอเชียต้องพึ่งพาฟาร์มกังหันลมนอกชายฝั่ง เพื่อบรรลุเป้าหมายพลังงานสะอาด แต่ขณะนี้กลับเผชิญปัญหาขาดแคลนเรือที่ใช้ในการติดตั้งกังหันลมกลางทะเลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
เหล่าผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งระบุว่า ปัจจุบันหลายประเทศเริ่มเร่งมือผลิตพลังงานลมในช่วง 10 ปีข้างหน้า แต่ไม่สามารถหาเรือมาตอบสนองแผนติดตั้งกังหันลมกลางทะเลได้เพียงพอกับความต้องการ โดยสถานการณ์ย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ เนื่องจากใบพัดของกังหันมีขนาดยาวขึ้น ทำให้ต้องใช้เรือขนาดใหญ่ขึ้นในการขนส่ง
นายฌอง ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทอู่ต่อเรือมาร์โค โปโล มาร์รีน จำกัดกล่าวว่า "เรือชนิดพิเศษจะกลายเป็นที่ต้องการสำหรับโครงการติดตั้งกังหันลมในไต้หวันและเกาหลีใต้ และจะมีโครงการเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงโครงการใหญ่จากญี่ปุ่นในปี 2571"
ทั้งนี้ งานที่ซับซ้อนอย่างการติดตั้งกังหันลมที่ก้นทะเล จำเป็นต้องใช้เรือหลายประเภทที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะ โดยการว่าจ้างเรือปฏิบัติการบริการหรือ CSOV จะช่วยจัดเตรียมเส้นทางเดินเรือที่ยืดหยุ่น ซึ่งช่วยให้ช่างเทคนิคสามารถเข้าถึงใบพัดของกังหันได้
บริษัทมาร์โค โปโลคาดว่า ภายในปี 2573 ความต้องการติดตั้งกังหันลมจะแซงหน้าอุปทานเรือไปประมาณ 15 ลำ ในขณะที่ช่องว่างสำหรับการว่าจ้างเรือปฏิบัติการบริการจะมากขึ้นจนเกินกว่า 145 ลำจากปัจจุบันอยู่ที่ 30 ลำ