บมจ.บ้านปู (BANPU) ซึ่งเป็นผู้ผลิตถ่านหินรายใหญ่ที่สุดของไทย วางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติจากชั้นหินดินดาน (Shale Gas) ในสหรัฐ ในขณะที่บ้านปูเตรียมนำหุ้นบริษัทในเครือในสหรัฐเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กภายในปีนี้
นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.บ้านปูให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า บ้านปูกำลังเร่งลงทุนในสหรัฐ ในขณะเดียวกันก็จะลดการพึ่งพาถ่านหิน
"ธุรกิจด้านพลังงานและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐยังมีศักยภาพมาก ซึ่งจะช่วยให้บ้านปูสามารถบรรลุเป้าหมายลดการพึ่งพาถ่านหิน" นางสมฤดีกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้
ทั้งนี้ บริษัทพลังงานของไทย นับตั้งแต่บ้านปูไปจนถึงบมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเม้นท์ (GULF) และบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) ต่างก็ขยายการลงทุนในต่างประเทศ เนื่องจากอุปสงค์และการเติบโตในประเทศไทยเริ่มชะลอตัวลง
นางสมฤดีเปิดเผยกับบลูมเบิร์กว่า บ้านปูกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อซื้อสินทรัพย์ด้านพลังงานเพิ่มเติมในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ หลังจากที่บริษัทได้เข้าไปลงทุนตั้งโรงงานผลิตไฟฟ้าขนาด 700 เมกะวัตต์ในรัฐดังกล่าวเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2564
นอกจากนี้ บ้านปูยังมีแผนที่จะเข้าลงทุนในธุรกิจติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ในประเทศจีน รวมทั้งลงทุนด้านพลังงานทดแทนในญี่ปุ่นและออสเตรเลีย โดยปัจจุบันบ้านปูมีโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์หลายแห่งในประเทศเหล่านั้น ซึ่งรวมถึงในประเทศเวียดนาม
บ้านปูมีแผนที่จะนำบริษัทบีเควี คอร์ป (BKV Corp) ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือด้านก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กปีนี้ โดยนางสมฤดีกล่าวว่า บ้านปูกำลังพิจารณาช่วงเวลาที่เหมาะสม และรอคอยให้บรรยากาศการลงทุนแข็งแกร่งมากขึ้นกว่านี้ หลังจากที่ราคาก๊าซมีความผันผวนอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา โดยราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดล่วงหน้าสหรัฐทรุดตัวลงกว่า 40% แล้วในปีนี้