น้ำมันดิบตะวันออกกลางมีแนวโน้มจะตึงตัวมากขึ้นตั้งแต่เดือนพ.ค.เป็นต้นไป หลังกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ประกาศแผนลดกำลังการผลิตอีกครั้ง ส่งผลให้โรงกลั่นจากเอเชียไปจนถึงยุโรปมีต้นทุนเพิ่มขึ้น และผลักดันให้ต้องแสวงหาซัพพลายเพิ่มเติมจากรัสเซีย, แอฟริกา และทวีปอเมริกา
ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นไปมากกว่า 4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลวันนี้ (3 เม.ย.) หลังกลุ่มโอเปกพลัสสร้างความตกตะลึงให้กับตลาด โดยการประกาศปรับลดกำลังการผลิตลงราว 1.16 ล้านบาร์เรล/วัน นับตั้งแต่เดือนพ.ค.ไปจนถึงสิ้นปี 2566
จากการคำนวณของสำนักข่าวรอยเตอร์ การตัดสินใจครั้งล่าสุดนี้ ส่งผลให้ปริมาณการปรับลดการผลิตน้ำมันโดยรวมของโอเปกพลัสอยู่ที่ 3.66 ล้านบาร์เรล/วัน หรือคิดเป็นสัดส่วน 3.7% ของความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลก
ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่า โอเปกพลัสจะคงนโยบายการผลิตน้ำมันด้วยการปรับลดกำลังการผลิต 2 ล้านบาร์เรล/วันไปจนถึงสิ้นปี 2566
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่โรงกลั่นของเกาหลีใต้รายหนึ่งระบุว่า การปรับลดกำลังการผลิตในครั้งนี้เป็นข่าวร้ายสำหรับผู้ซื้อน้ำมัน และโอเปกกำลังแสวงหาแนวทางในการ "ปกป้องผลกำไรของตนเอง" จากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก