นายฟาตีห์ ไบรอล ผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจากจีนและประเทศกำลังพัฒนา ประกอบกับการที่กลุ่มโอเปกพลัสปรับลดการผลิตน้ำมันนั้น อาจจะทำให้ตลาดน้ำมันโลกเผชิญภาวะอุปทานตึงตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แม้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงก็ตาม
"แม้ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจอ่อนแอลง แต่อุปสงค์น้ำมันในจีนและกลุ่มประเทศกำลังพัฒนายังคงแข็งแกร่ง ปัจจัยเหล่านี้เมื่อบวกเข้ากับการที่กลุ่มโอเปกพลัสปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันแล้ว เชื่อว่าจะได้เห็นตลาดน้ำมันโลกเผชิญภาวะตึงตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้" นายไบรอลกล่าวในวันจันทร์ (10 ก.ค.)
ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา IEA ระบุว่า อุปสงค์น้ำมันจากจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อันดับหนึ่งของโลกนั้น ดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง หลังจากรัฐบาลจีนประกาศยกเลิกมาตรการควบคุมโควิด-19 ขณะที่อุปสงค์น้ำมันในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วนอกกลุ่ม OECD นั้นคิดเป็น 90% ของอุปสงค์ที่ขยายตัวในปีนี้
ทางด้านซาอุดีอาระเบียจะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วันออกไปจนถึงสิ้นเดือนส.ค. ขณะที่รัสเซียจะปรับลดการส่งออกน้ำมันจำนวน 500,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค. โดยทั้ง 2 ประเทศเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ในกลุ่มโอเปกพลัส
ในรายงานประจำเดือนมิ.ย.ของกลุ่มโอเปกระบุว่า การที่เศรษฐกิจจีนฟื้นตัวได้ดีเกินคาดนั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยหนุนอุปสงค์น้ำมันในตลาดโลก