นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ปฏิบัติภารกิจเดินทางเยือนตะวันออกกลางเป็นเวลา 4 วัน โดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ เพื่อส่งเสริม "การทูตด้านทรัพยากร" กับประเทศยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน
นายคิชิดะเดินทางเยือนตะวันออกกลางเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคม 2564 และตั้งเป้าว่าจะจัดหาพลังงานที่มั่นคงให้แก่ญี่ปุ่นที่มีทรัพยากรจำกัด พร้อมกับส่งเสริมความพยายามในการลดคาร์บอน
นายคิชิดะจะประชุมสุดยอดทวิภาคีกับเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย, มุฮัมมัด บิน ซัยยิด อัลนะฮ์ยาน ประธานาธิบดีสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเชค ตะมีม บิน ฮะมัด อาล ษานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นและซาอุดีอาระเบียตกลงที่จะยกระดับความร่วมมือในด้านเทคโนโลยีพลังงาน ขณะเดียวกัน นายคิชิดะจะเสนอให้มีการเจรจาระดับรัฐมนตรีต่างประเทศระหว่างญี่ปุ่นกับกลุ่มประเทศความร่วมมือแห่งอ่าวอาหรับ (GCC)
นอกจากนี้ ญี่ปุ่นและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ในขณะที่อาบูดาบีกำลังจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 28 หรือ COP28 ในเดือนพ.ย.นี้
ขณะเดียวกัน นายคิชิดะจะเรียกร้องให้กาตาร์ดำเนินการจัดหาก๊าซ LNG ให้กับญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่อง ในฐานะที่กาตาร์เป็นหนึ่งในผู้ส่งออกก๊าซ LNG รายใหญ่ที่สุดของโลก
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ภารกิจครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำทางการเมืองของญี่ปุ่นเดินทางเยือนตะวันออกกลางนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2563 ซึ่งในตอนนั้นนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และโอมาน