นายจานิฟ ชาห์ นักวิเคราะห์อาวุโสจากบริษัทริสตัด เอเนอร์จี (Rystad Energy) คาดการณ์ว่า ความสามารถของอินเดียในการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียนั้น อาจจะแตะเพดานสูงสุดภายในปีนี้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานและการเมือง รวมทั้งการไหลเวียนของน้ำมันรัสเซียที่เป็นไปอย่างจำกัด
นายชาห์เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีว่า "อินเดียจะยังคงหาทางนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียต่อไป แต่คาดว่าความสามารถในการนำเข้าน้ำมันอาจจะแตะเพดานสูงสุดภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้อินเดียไม่สามารถนำเข้าเพิ่มได้อีก"
นับตั้งแต่ที่รัสเซียเข้ารุกรานยูเครนเมื่อเดือนก.พ.ปีที่แล้ว บรรดาโรงกลั่นของอินเดียต่างแห่ซื้อน้ำมันลดราคาของรัสเซีย ทำให้รัสเซียกลายเป็นแหล่งน้ำมันดิบชั้นนำของอินเดีย โดยมีสัดส่วนสูงถึง 40% ของน้ำมันดิบนำเข้าทั้งหมดของอินเดีย
บริษัทเคปเลอร์ (Kpler) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านข้อมูลเปิดเผยว่า อินเดียนำเข้าน้ำมันดิบจากรัสเซียเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ในเดือนมิ.ย.
นายวิคเตอร์ คาโตนา นักวิเคราะห์ด้านน้ำมันดิบของเคปเลอร์กล่าวว่า "การที่อินเดียนำเข้าน้ำมันจากรัสเซียในปริมาณ 2.2 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย.นั้น ถือเป็นปริมาณที่สูงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ผมคาดว่าการนำเข้าน้ำมันดิบในปริมาณ 2.2 ล้านบาร์เรล/วันจะเป็นปริมาณน้ำมันสูงสุดที่อินเดียสามารถนำเข้าจากรัสเซียในปีนี้ และจากนั้นปริมาณการนำเข้าจะเริ่มชะลอตัวลงมาอยู่ที่ระดับ 2 ล้านบาร์เรล/วัน"
ขณะที่นายชาห์กล่าวว่า ปริมาณน้ำมันดิบที่ใช้และแปรรูปโดยโรงกลั่นของอินเดียในขณะนี้แตะระดับสูงสุดตามฤดูกาลแล้ว และหลังจากนี้จะเข้าสู่ช่วงขาลง โดยฤดูมรสุมของอินเดียเริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นเดือนมิ.ย. ส่วนในช่วงฤดูร้อนมักจะเป็นช่วงเวลาที่ความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันในอินเดียลดลง อันเป็นผลมาจากการเดินทางและการก่อสร้างที่ลดน้อยลง
ทั้งนี้ ความต้องการเชื้อเพลิงในอินเดียซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก มักจะชะลอตัวลงในช่วง 4 เดือนของฤดูมรสุม โดยข้อมูลจากฝ่ายวางแผนและวิเคราะห์ปิโตรเลียมของอินเดียระบุว่า ความต้องการน้ำมันในเดือนมิ.ย.ปรับตัวลดลง 3.7% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 19.31 ล้านตัน