สหภาพแรงงานที่โรงงานผลิตก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของบริษัทเชฟรอนในออสเตรเลียประกาศเตือนว่าจะหยุดงานประท้วง ซึ่งอาจจะสร้างความเสียหายให้แก่เชฟรอนซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของสหรัฐเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ หากข้อเรียกร้องเรื่องค่าจ้างและสภาพการทำงานไม่ได้รับการตอบรับ
สมาชิกสหภาพแรงงานได้ลงมติเมื่อวานนี้ (24 ส.ค.) ให้กลุ่มพันธมิตรนอกชายฝั่ง (Offshore Alliance) ของสหภาพแรงงานหยุดงานประท้วงในโครงการกอร์กอนและวีทสโตน (Gorgon and Wheatstone) ของบริษัทเชฟรอน
สหภาพแรงงานได้โพสต์ข้อความลงบนเฟสบุ๊ก โดยระบุว่าถึงทีมผู้จัดการอาวุโสของเชฟรอนว่า "ความโง่เง่ากำลังจะทำให้พวกเขาสูญเสียเงินหลายพันล้านทั้งในด้านการผลิตและผลกำไร"
นอกจากนี้ สหภาพแรงงานยังวิพากษ์วิจารณ์บริษัทเชฟรอนที่ยื่นข้อเสนอโดยตรงให้คนงานลงคะแนนเสียง โดยไม่ผ่านกระบวนการเจรจาต่อรอง พร้อมขู่จะดำเนินการทางอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม เชฟรอนไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นดังกล่าว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คนงาน 99% จากจำนวนคนงาน 450 คนที่ทำงานให้กับเชฟรอนได้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนมอบอำนาจในการหยุดงานประท้วง ซึ่งอาจรวมถึงการไม่เติมน้ำมันให้กับเรือบรรทุกน้ำมันหรือเรือทั่วไป, ไม่เข้าทำงานตามหน้าที่บางส่วน และผละงานเต็มรูปแบบ
สถานการณ์ที่รุนแรงยิ่งขึ้นนี้เกิดขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากที่กลุ่มพันธมิตรนอกชายฝั่ง บรรลุข้อตกลงเชิงหลักการที่โรงงาน LNG ทางตะวันตกเฉียงเหนือของวูดไซด์ ซึ่งเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย ทำให้ราคาค้าส่งก๊าซในอังกฤษและเนเธอร์แลนด์ลดลงอย่างมากเมื่อวานนี้