ยอดนำเข้าน้ำมันดิบเดือนก.ย.ในภูมิภาคเอเชียลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 เนื่องจากการซ่อมบำรุงโรงกลั่นทำให้อุปสงค์ลดลง รวมถึงผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างข้อมูลของแอลเอสอีจี (LSEG) ซึ่งระบุว่า ภูมิภาคเอเชียมียอดนำเข้าน้ำมันอยู่ที่ 24.95 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ย. ลดลงจากระดับ 25.22 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนส.ค.
นอกจากนี้ ยอดนำเข้าน้ำมันเดือนก.ย. ยังลดลงเกือบ 3 ล้านบาร์เรล/วัน จากระดับ 27.92 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ค. ซึ่งเป็นยอดน้ำเข้าน้ำมันรายเดือนสูงสุดของปี 2566
LSEG ระบุว่า ยอดนำเข้าที่ลดลงเกิดจากสาเหตุหลัก 2 ประการ โดยปัจจัยแรกเป็นปัจจัยชั่วคราว คือการบำรุงรักษาโรงกลั่นตามฤดูกาล ซึ่งเริ่มในเดือนก.ย. และจะดำเนินการจนถึงเดือนต.ค.
ในปัจจุบัน โรงกลั่นที่กำลังบำรุงรักษาตามกำหนดเวลา ได้แก่ โรงกลั่นของรีไลแอนซ์ อินดัสทรีส์ (Reliance Industries) ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 1.24 ล้านบาร์เรล/วัน ในเมืองจัมนาการ์ ประเทศอินเดีย, โรงกลั่นหงีเซิน (Nghi Son) ของเวียดนาม, โรงกลั่นในเมืองอุลซานของเอสเค เอนเนอร์จี (SK Energy) ในเกาหลีใต้ และโรงกลั่นซีพีซี (CPC) ของไต้หวัน
ส่วนอีกปัจจัยที่ส่งผลให้ยอดนำเข้าน้ำมันดิบเดือนก.ย.ลดลง คือราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นตั้งแต่เดือนก.ค. หลังจากซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นสมาชิกสำคัญของกลุ่มโอเปกพลัสประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันโดยสมัครใจจำนวน 1 ล้านบาร์เรล/วัน