สำนักงานศุลกากรจีน (GAC) เปิดเผยในวันนี้ (20 ธ.ค.) ว่า การนำเข้าถ่านหินของจีนจากอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น 16% ในเดือนพ.ย. จากเดือนก่อนหน้า ในขณะที่การนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลียเพิ่มขึ้นเกือบ 30% เนื่องจากภาคสาธารณูปโภคได้สำรองถ่านหินเอาไว้สำหรับการผลิตไฟฟ้าในช่วงฤดูหนาว
ข้อมูลของ GAC ระบุว่า จีน ซึ่งเป็นผู้ซื้อถ่านหินรายใหญ่ที่สุดของโลก นำเข้าถ่านหินรวมกันเพิ่มขึ้น 35% ในเดือนพ.ย. แตะ 43.51 ล้านตัน จากปีก่อนหน้า เนื่องจากราคานำเข้าถูกลง
การนำเข้าถ่านหินจากอินโดนีเซีย ซึ่งมีปริมาณพลังงานส่วนใหญ่อยู่ที่ 3,800 กิโลแคลอรี และส่วนใหญ่อยู่ภายใต้สัญญาจัดหารายปี มีมูลค่าแตะ 18.33 ล้านเมตริกตันเมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 15.8 ล้านตันในเดือนต.ค. แต่ลดลงจากระดับของปีก่อนหน้าที่ 20.04 ล้านตัน
ขณะที่ การนำเข้าถ่านหินจากรัสเซีย ซึ่งส่วนใหญ่มีปริมาณพลังงานอยู่ที่ 5,500 กิโลแคลอรี ลดลงแตะ 7.32 ล้านตันในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. เทียบกับ 7.64 ล้านตันในเดือนต.ค.
ส่วนปริมาณการนำเข้าถ่านหินจากออสเตรเลียในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้นแตะ 6.22 ล้านตัน ซึ่งเป็นตัวเลขรายเดือนสูงเป็นอันดับสามของปีนี้ และเพิ่มขึ้น 28.5% จากระดับ 4.84 ล้านตันในเดือนต.ค.
รายงานระบุว่า ภาคสาธารณูปโภคของจีนยังคงมีสต๊อกถ่านหินเหลือจำนวนมากในปีนี้ เนื่องจากมีผลผลิตที่สูงอย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาภายในประเทศ โดยปัจจุบันภาคสาธารณูปโภคมีสต๊อกถ่านหินกว่า 200 ล้านตัน
อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ระบุว่าอุบัติเหตุจากเหมืองในช่วงที่ผ่านมาได้ช่วยหนุนราคาขายส่งถ่านหินในประเทศซึ่งอยู่ที่ 950 หยวน (133.19 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อตันสำหรับผลิตเชื้อเพลิง 5,500 กิโลแคลอรีในเมืองฉินหวงเต่า ศูนย์กลางถ่านหินทางตอนเหนือของจีน