แองโกลาประกาศว่าจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เนื่องจากไม่พอใจที่โอเปกปรับลดโควตาการผลิตน้ำมันของแองโกลา โดยเป็นสมาชิกรายล่าสุดที่ถอนตัวหลังจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายประเทศได้ถอนตัวจากการเป็นสมาชิกของโอเปกซึ่งได้แก่กาตาร์ อินโดนีเซีย และเอกวาดอร์
นายเดียมานติโน อาเซเวโด รัฐมนตรีพลังงานของแองโกลากล่าวว่า แองโกลาไม่ได้ประโยชน์อะไรอีกแล้วจากการเป็นสมาชิกของโอเปก โดยแองโกลาเข้าร่วมเป็นสมาชิกของโอเปกในปี 2550 และผลิตน้ำมันราว 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่กลุ่มโอเปกมีกำลังผลิตรวมกันอยู่ที่ 28 ล้านบาร์เรล/วัน
หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอร์นิง โพสต์รายงานว่า ในการประชุมเมื่อเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา แองโกลาได้คัดค้านการตัดสินใจของโอเปกในการลดโควตาการผลิตน้ำมันของแองโกลาสำหรับปี 2567 เพื่อพยุงราคาน้ำมัน โดยความไม่ลงรอยกันเกี่ยวกับการปรับลดโควตาการผลิตน้ำมันสำหรับบางประเทศในทวีปแอฟริกา ซึ่งรวมถึงแองโกลาด้วยนั้น เป็นสาเหตุที่ทำให้การประชุมโอเปกเดือนพ.ย.ถูกเลื่อนออกไป
ทั้งนี้ ในการประชุมเดือนพ.ย. โอเปกและชาติพันธมิตรหรือโอเปกพลัสซึ่งรวมถึงรัสเซีย มีมติปรับลดกำลังการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรล/วันในไตรมาสแรกของปี 2567 ซึ่งเป็นไปในลักษณะของความสมัครใจของประเทศสมาชิก แทนที่จะเป็นการกำหนดโควตาอย่างเป็นทางการ ซึ่งทำให้ตลาดมีความกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติตามสัญญา และการตรวจสอบการผลิตน้ำมันของสมาชิกโอเปกพลัส
แมตต์ สมิธ นักวิเคราะห์จากบริษัทเคปเลอร์กล่าวว่า การถอนตัวของแองโกลาอาจจะบั่นทอนความพยายามของกลุ่มโอเปกในการพยุงราคาน้ำมัน และก่อให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความเป็นเอกภาพและทิศทางของโอเปก แม้ว่าแองโกลาเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันไม่มากก็ตาม
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ต่างก็ปรับตัวลงในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (21 ธ.ค.) หลังจากแองโกลาประกาศถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกโอเปก ซึ่งทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจเกี่ยวกับความพยายามของโอเปกในการพยุงราคาน้ำมันด้วยการปรับลดกำลังการผลิต