ราคาน้ำมันเริ่มปรับตัวลดลงในสัปดาห์นี้ หลังจากที่อิสราเอลประกาศว่าได้เสร็จสิ้นการโจมตีพื้นที่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ซึ่งช่วยบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง
ณ เวลา 14.46 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลง 28 เซนต์ หรือ 0.4% แตะ 76.56 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ลดลง 29 เซนต์ หรือ 0.4% แตะ 81.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ซึ่งรวมถึงความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ที่เกรงว่าอาจขยายวงกว้างทั่วทั้งภูมิภาค ตลอดจนความกังวลเกี่ยวกับการหยุดชะงักของอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นประมาณ 6% ในสัปดาห์ที่แล้ว
นอกจากนี้ การหยุดชะงักของการขนส่งในทะเลแดงยังคงเป็นประเด็นสำคัญที่นักลงทุนกังวล โดยล่าสุดในวันนี้ (12 ก.พ.) หน่วยงานปฏิบัติการการค้าทางทะเลแห่งสหราชอาณาจักร (UKMTO) เปิดเผยว่า ทางหน่วยงานได้รับรายงานเกี่ยวกับเหตุโจมตีเรือบรรทุกสินค้าลำหนึ่งด้วยขีปนาวุธถึง 2 ครั้ง ขณะแล่นผ่านช่องแคบบับอัลมันดับ (Bab al-Mandab) ทางตอนใต้สุดของทะเลแดง
อย่างไรก็ดี รายงานจากสหรัฐได้ช่วยคลายความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง โดยมีรายงานว่าบริษัทพลังงานของสหรัฐได้เพิ่มแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งส่งสัญญาณถึงการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน ขณะที่การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐแตะ 13.3 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว