รัฐบาลสหรัฐประกาศว่าจะไม่ต่ออายุใบอนุญาตผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันของเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นสัญญาณของการกลับไปใช้มาตรการที่เข้มงวดขึ้น เนื่องจากประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ผู้นำเวเนซุเอลา ไม่ทำตามสัญญาในข้อตกลงการเลือกตั้งที่สหรัฐหนุนหลังเมื่อปีที่แล้ว
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ใบอนุญาตดังกล่าวจะหมดอายุในช่วงเช้าวันนี้ (18 เม.ย.) โดยกระทรวงการคลังสหรัฐประกาศเมื่อวานนี้ (17 เม.ย.) ว่าได้ออกใบอนุญาตทดแทน ซึ่งให้เวลาบริษัทต่าง ๆ 45 วันในการยุติการดำเนินงานในภาคธุรกิจน้ำมันและก๊าซของเวเนซุเอลา
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐได้เตือนเวเนซุเอลาอยู่หลายครั้งว่าจะกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงาน หากปธน.มาดูโรไม่ทำตามสัญญาในข้อตกลงการเลือกตั้งระหว่างรัฐบาลมาดูโรกับฝ่ายค้านเวเนซุเอลา
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐกล่าวว่า แม้ว่าปธน.มาดูโรจะปฏิบัติตามข้อตกลงบางส่วนจนนำไปสู่การผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรบางส่วนในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว แต่ปธน.มาดูโรก็ไม่ได้ปฏิบัติตามองค์ประกอบในส่วนอื่น ๆ อาทิ การอนุญาตให้ฝ่ายค้านส่งผู้สมัครที่พวกเขาต้องการเพื่อลงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นในวันที่ 28 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ หนึ่งในข้อกังวลหลักของสหรัฐคือการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองของปธน.มาดูโร โดยเฉพาะการกีดกันแคนดิเดตจากฝ่ายค้านที่โดดเด่นอย่างนางมาริอา โกรินา มาชาโด ไม่ให้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
แม้นางมาชาโดจะชนะการเลือกตั้งรอบแรกของฝ่ายค้านในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว แต่เธอก็ยังคงถูกห้ามไม่ให้ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ทำให้เกิดการหารือภายในฝ่ายค้านว่าจะส่งใครลงสมัครแทน
เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ดังกล่าว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจึงออกแถลงการณ์ผ่านนายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงฯ ว่า ใบอนุญาตทั่วไปจะหมดอายุหลังเที่ยงคืนตามเวลา EDT โดยไม่มีการต่ออายุ
"เรากังวลว่ามาดูโรและตัวแทนของเขาได้ขัดขวางไม่ให้ฝ่ายค้านส่งแคนดิเดตที่ตนเลือกลงสมัครตามกระบวนการประชาธิปไตย คุกคามและข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง และจับกุมบุคคลทางการเมืองและสมาชิกของภาคประชาสังคมจำนวนมากอย่างไม่เป็นธรรม" นายมิลเลอร์แถลง
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการจับกุมพันธมิตรฝ่ายค้านและนักกิจกรรมหลายคน โดยแหล่งข่าวใกล้ชิดกับพรรครัฐบาลระบุว่า น่าจะเป็นผลมาจากกระแสสนับสนุนปธน.มาดูโรภายในประเทศที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม นายฆอร์เฆ โรดริเกซ ผู้นำสภานิติบัญญัติที่เป็นพันธมิตรกับรัฐบาล แถลงข่าวเมื่อวานนี้โดยยืนยันว่าเวเนซุเอลาได้ปฏิบัติตามข้อตกลงของปีที่แล้ว พร้อมระบุว่าการกลับมาใช้มาตรการคว่ำบาตรนั้น "เป็นการกระทำที่ส่งผลเสียหายต่อเวเนซุเอลา"
ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การเพิกถอนใบอนุญาตดังกล่าวจะจำกัดปริมาณน้ำมันดิบที่เวเนซุเอลาสามารถผลิตเพิ่มขึ้นได้ เว้นแต่สหรัฐจะออกใบอนุญาตให้บริษัทต่าง ๆ เป็นราย ๆ มากพอเพื่อชดเชยส่วนที่ขาดไป