รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังวางแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์เป็น 3 เท่าภายในปี 2593 เนื่องจากคาดว่าความต้องการจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในฐานะแหล่งพลังงานปลอดคาร์บอน
ตามแผนการที่เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (12 พ.ย.) สหรัฐฯ จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์อีก 200 กิกะวัตต์ภายในช่วงกลางศตวรรษนี้ ผ่านการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ใหม่ การกลับมาเปิดดำเนินการโรงไฟฟ้าที่ปิดไปก่อนหน้านี้ และการปรับปรุงโรงงานที่มีอยู่ โดยในระยะสั้น สหรัฐฯ ตั้งเป้าที่จะเพิ่มกำลังการผลิต 35 กิกะวัตต์ภายในเวลาเพียง 10 ปี
"ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้พัฒนาขีดความสามารถทางอุตสาหกรรมและความเชี่ยวชาญในภาคเศรษฐกิจเพื่อให้สามารถดำเนินแผนนี้ได้" อาลี ไซดี ที่ปรึกษาด้านสภาพภูมิอากาศประจำทำเนียบขาวกล่าว
ไซดีกล่าวว่า คณะบริหารของไบเดนกำลังแก้ไขปัญหาที่ขัดขวางการพัฒนาพลังงานนิวเคลียร์ เช่น การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ การจัดหาเชื้อเพลิงในประเทศ และโครงสร้างพื้นฐานด้านการกำกับดูแล
ทั้งนี้ คาดว่าแผนการดังกล่าวอาจได้รับการสานต่อภายใต้การบริหารของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ เนื่องจากในระหว่างการหาเสียง ทรัมป์สนับสนุนให้มีการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ใหม่เพื่อช่วยจัดหาไฟฟ้าให้กับบรรดาศูนย์ข้อมูลและโรงงานที่ใช้ไฟฟ้ามาก