วอลมาร์ท (Walmart) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในโลกคาดว่า บริษัทจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายระยะสั้นด้านสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากมีปัญหาหลายประการ รวมถึงการขาดแคลนเทคโนโลยีสะอาดที่มีต้นทุนต่ำ ซึ่งทำให้ภารกิจในการลดการปล่อยมลพิษดำเนินไปอย่างล่าช้า
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า วอลมาร์ทได้ยอมรับว่า อาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาก่อนหน้านี้ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานลงได้ 65% ภายในปี 2573 และ 35% ภายในปี 2568 และบริษัทอาจจะต้องพิจารณาทบทวนเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศในปีหน้า
"เราคาดว่าการบรรลุเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งระยะใกล้และระยะกลางจะล่าช้ากว่ากำหนดเดิมในปี 2568 และ 2573" วอลมาร์ทระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธ (18 ธ.ค.) โดยการปล่อยก๊าซจากการดำเนินงาน (ขอบเขต 1 และ 2) เพิ่มขึ้นเกือบ 4% ในปี 2566 เมื่อเทียบรายปี เนื่องจากการขยายตัวของธุรกิจและปัจจัยอื่น ๆ
วอลมาร์ทระบุว่า การลดการปล่อยมลพิษต้องอาศัยนโยบายและโครงสร้างพื้นฐานในตลาดโลก การมีเทคโนโลยีต้นทุนต่ำที่ช่วยลดผลกระทบด้านสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากระบบทำความเย็นและระบบปรับอากาศ รวมถึงการพัฒนาโซลูชันที่ปล่อยมลพิษน้อยลงสำหรับการขนส่งด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่
ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดี (19 ธ.ค.) ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ประกาศเป้าหมายให้สหรัฐฯ ลดมลพิษที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนลงอย่างน้อยที่สุด 61% ภายในทศวรรษหน้า พร้อมเรียกร้องให้บริษัท, เมือง และรัฐต่าง ๆ ยังคงลงทุนและดำเนินการต่อไป แม้ว่ารัฐบาลกลางสหรัฐฯ ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่นั้น อาจถอนตัวจากนโยบายนี้ก็ตาม