ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ต้อนรับโรเบิร์ต ฟิโก นายกรัฐมนตรีสโลวาเกีย ที่ทำเนียบเครมลินเมื่อวันอาทิตย์ (22 ธ.ค.) นับเป็นการเยือนมอสโกที่แทบจะนับครั้งได้ของบุคคลระดับผู้นำจากสหภาพยุโรป (EU) และเกิดขึ้นในขณะที่สัญญาขนส่งก๊าซรัสเซียผ่านยูเครนกำลังจะหมดอายุ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สโลวาเกียต้องพึ่งพาก๊าซที่ส่งผ่านประเทศเพื่อนบ้านอย่างยูเครนเป็นหลัก และกำลังเร่งรักษาเส้นทางการส่งก๊าซนี้ไว้หลังปี 2568 พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ที่ปฏิเสธการต่อสัญญาที่จะหมดอายุสิ้นปีนี้
การเยือนมอสโกของนายกฯ ฟิโกครั้งนี้นับเป็นเพียงครั้งที่สามของผู้นำจากกลุ่ม EU นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อก.พ. 2565 ซึ่งสร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายค้านในสโลวาเกียที่มองว่าเป็น "ความอัปยศ"
ภายหลังการหารือ นายกฯ ฟิโกได้เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า เขาได้แจ้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ EU ล่วงหน้าถึงการเดินทางครั้งนี้เมื่อวันศุกร์ (20 ธ.ค.)
นายกฯ ฟิโกเผยว่า การเยือนครั้งนี้สืบเนื่องจากการพูดคุยกับปธน.เซเลนสกีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งตามคำบอกเล่าของนายกฯ ฟิโก ปธน.เซเลนสกีได้แสดงจุดยืนคัดค้านการขนส่งก๊าซผ่านยูเครนไปยังสโลวาเกีย
"ประธานาธิบดี วี. ปูติน ของรัสเซีย ยืนยันว่า (สหพันธรัฐรัสเซีย) พร้อมส่งก๊าซให้ชาติตะวันตกและสโลวาเกียต่อไป แต่คงเป็นไปได้ยากหลังวันที่ 1 มกราคม 2568 เมื่อพิจารณาจากท่าทีของผู้นำยูเครน" นายกฯ ฟิโกกล่าว
อนึ่ง นายกฯ ฟิโกที่กลับมาดำรงตำแหน่งอีกครั้งในปี 2566 ได้พลิกโฉมนโยบายต่างประเทศของสโลวาเกีย ด้วยการยุติความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนทันที พร้อมแสดงจุดยืนว่า สงครามกับรัสเซียไม่อาจยุติด้วยกำลังทหาร และวิพากษ์วิจารณ์การคว่ำบาตรรัสเซีย
สื่อโทรทัศน์รัสเซียเผยภาพปธน.ปูตินและนายกฯ ฟิโกจับมือทักทายก่อนเริ่มการเจรจา โดยดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน เผยว่า การประชุมครั้งนี้ถูกจัดเตรียมขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนหน้า
ระหว่างการหารือ นายกฯ ฟิโกเผยว่า เขาและปูตินได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสถานการณ์ทางทหารในยูเครน ความเป็นไปได้ในการยุติสงครามอย่างสันติ และความสัมพันธ์สโลวาเกีย-รัสเซีย "ซึ่งผมตั้งใจจะทำให้กลับสู่ภาวะปกติ"
สโลวาเกียซึ่งมีสัญญาระยะยาวกับบริษัทก๊าซพรอม (Gazprom) ของรัสเซีย พยายามรักษาเส้นทางขนส่งก๊าซผ่านยูเครนเอาไว้ โดยชี้ว่าหากต้องหันไปซื้อจากแหล่งอื่น จะต้องแบกรับค่าขนส่งที่เพิ่มขึ้นถึง 220 ล้านยูโร (229 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แต่ยูเครนยืนกรานปฏิเสธการต่อสัญญาขนส่งก๊าซมาโดยตลอด
นายกฯ ฟิโกหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นหารือในการประชุมสุดยอด EU เมื่อวันพฤหัสบดี (19 ธ.ค.) ซึ่งปธน.เซเลนสกีที่เข้าร่วมประชุมด้วยก็ย้ำชัดว่า ยูเครนจะไม่ขนส่งก๊าซรัสเซียอีกต่อไป
นายกฯ ฟิโกที่ยอมรับว่าสโลวาเกียกำลังเผชิญวิกฤตก๊าซนั้น ได้เสนอทางออกว่า แทนที่จะขนส่งก๊าซของรัสเซีย อาจเปลี่ยนให้ยูเครนขนส่งก๊าซที่เป็นของประเทศอื่นแทน