ราคาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ในเอเชียมีแนวโน้มปรับตัวขึ้น หลังจากยูเครนยุติการส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังยุโรป และคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวของยูเครนจะช่วยกระตุ้นการแข่งขันในเอเชียในฐานะทางเลือก
กระทรวงพลังงานยูเครนได้ประกาศยุติการส่งก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียไปยังยุโรปในวันพุธที่ 1 ม.ค. 2568 หลังจากข้อตกลงขนส่งก๊าซผ่านยูเครนระยะเวลาห้าปีหมดอายุลงเมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2567 โดยกระทรวงฯ ระบุว่า การดำเนินการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อความมั่นคงของชาติ และยูเครนได้แจ้งให้บรรดาประเทศคู่ค้าทราบถึงการหยุดส่งก๊าซแล้ว ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ การดำเนินการดังกล่าวของยูเครนถือเป็นการปิดท่อส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรปที่ดำเนินมานานกว่าห้าทศวรรษ โดยแม้ว่าความเคลื่อนไหวนี้มีการคาดการณ์ไว้แล้วหลังเกิดความขัดแย้งทางการเมืองเป็นเวลาหลายเดือน แต่ยุโรปยังคงจำเป็นต้องหาก๊าซมาทดแทนประมาณ 5% และอาจต้องเพิ่มการพึ่งพาก๊าซที่สำรองเอาไว้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ราคาก๊าซ LNG ปรับตัวขึ้นเนื่องจากตลาดได้คาดการณ์ไว้แล้วว่ายูเครนจะระงับการส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังยุโรป โดยราคาอ้างอิงก๊าซของยุโรปปิดท้ายปี 2567 พุ่งขึ้นกว่า 50%
ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ได้โพสต์ข้อความบนเทเลแกรม (Telegram) เมื่อวันพุธว่า ยูเครนคาดหวังว่าการเพิ่มการจัดส่งก๊าซจากสหรัฐฯ และประเทศผู้ผลิตรายอื่น ๆ ไปยังยุโรปนั้น จะทำให้ราคาก๊าซมีความเหมาะสมมากขึ้น
ทั้งนี้ การที่รัสเซียส่งกองกำลังทหารบุกยูเครนในเดือนก.พ. 2565 ได้ก่อให้เกิดวิกฤตพลังงานในยุโรป ส่งผลให้ราคาก๊าซ LNG ทั้งในภูมิภาคและในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น
สกอตต์ ดาร์ลิง กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์ ไห่ทง อินเตอร์เนชันแนล (Haitong International Securities) กล่าวในวันนี้ว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ตลาด LNG อยู่ในภาวะตึงตัวมากขึ้น โดยคาดว่าตลาดจะเผชิญภาวะตึงตัวในปีนี้และอาจจะถึงปีหน้า และคาดว่าราคาก๊าซ LNG ในตลาดสปอตมีความเสี่ยงที่จะอยู่ในช่วงขาขึ้นในปีนี้และปีหน้าด้วย