ซาอุดี อารัมโก (Saudi Aramco) บริษัทผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำมันดิบที่ขายให้แก่ลูกค้าเอเชียในเดือนก.พ. นี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบสามเดือน หลังกลุ่มโอเปกพลัส (OPEC+) มีมติขยายเวลาลดกำลังการผลิตออกไปอีกสามเดือน ขณะที่ปริมาณน้ำมันจากรัสเซียและอิหร่านลดลง
ราคาขายน้ำมันอย่างเป็นทางการ (OSP) สำหรับน้ำมันดิบเกรด Arab Light ของซาอุดีอาระเบียจะสูงกว่าราคาอ้างอิงเฉลี่ยของโอมานและดูไบ อยู่ที่ 1.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในเดือนก.พ. ซึ่งเพิ่มขึ้น 60 เซนต์ จากระดับต่ำสุดในรอบสี่ปีที่ 90 เซนต์ต่อบาร์เรลในเดือนม.ค.
นอกจากนี้ ซาอุดี อารัมโก ยังได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันดิบเกรดอื่น ๆ ที่ขายให้กับลูกค้าในเอเชียด้วยเช่นกัน
สำหรับลูกค้าในภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของยุโรปและในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ซาอุดี อารัมโก ปรับราคาน้ำมันดิบทุกเกรดสูงขึ้น 1.30 ดอลลาร์ในเดือนก.พ. แต่ลดราคา OSP สำหรับน้ำมันดิบเกรดต่าง ๆ ที่ขายให้กับสหรัฐฯ ลง 30-40 เซนต์ต่อบาร์เรล
การปรับขึ้นราคาน้ำมันดิบ Arab Light สำหรับเอเชียนั้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้เล็กน้อย โดยก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่าจะปรับขึ้นราว 20-50 เซนต์ จากการสำรวจโรงกลั่นหกแห่งในเอเชียโดยสำนักข่าวรอยเตอร์
เทรดเดอร์สองรายให้เหตุผลว่า การที่ราคาน้ำมันดิบของซาอุฯ ปรับขึ้นสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้นั้น เป็นเพราะในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธ.ค. ราคาซื้อขายน้ำมันดิบในตลาดสปอตมีส่วนต่างที่สูงขึ้นอย่างมาก
เมื่อเดือนที่แล้ว ราคาส่วนต่างของน้ำมันดิบเกรดตะวันออกกลางที่กำลังจะส่งมอบในเดือนก.พ. ได้ฟื้นตัวขึ้นหลังจากร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบปีเมื่อเดือนพ.ย. เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับปริมาณน้ำมันจากอิหร่านและรัสเซียที่ไม่แน่นอน
ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบอิหร่านที่ขายให้กับจีนพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบหลายปี เนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ ที่เข้มงวดขึ้น ทำให้กำลังการขนส่งตึงตัวและผลักดันต้นทุนโลจิสติกส์ให้สูงขึ้น ส่วนในอินเดีย โรงกลั่นของรัฐ เช่น ภารัต ปิโตรเลียม คอร์ป (Bharat Petroleum Corp) กำลังหันมาซื้อน้ำมันจากตะวันออกกลางมากขึ้นพื่อชดเชยปริมาณน้ำมันจากรัสเซียที่ลดลง
นักวิเคราะห์วงในคาดการณ์ไว้เมื่อวันอาทิตย์ (5 ม.ค.) ว่า ราคาน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางอาจยังคงทรงตัวที่ระดับสูงในช่วงระยะเวลาอันใกล้นี้ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เตรียมออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม จากกรณีสงครามในยูเครน
ขณะเดียวกัน กลุ่มโอเปกพลัส ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศที่ผลิตน้ำมันดิบประมาณครึ่งหนึ่งของโลก ได้มีมติเมื่อต้นเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา ให้เลื่อนการเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันออกไปสามเดือนจนถึงเดือนเม.ย. และขยายเวลาการยกเลิกการลดกำลังการผลิตทั้งหมดออกไปอีกหนึ่งปีจนถึงสิ้นปี 2569 เนื่องจากความต้องการน้ำมันยังอ่อนแอ และมีการผลิตน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกพลัสมากขึ้น