เชลล์ (Shell) ประกาศปรับลดมูลค่าทางบัญชีการลงทุนมูลค่าประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการสำรวจพบน้ำมันนอกชายฝั่งนามิเบีย หลังประเมินแล้วว่าไม่คุ้มค่าเชิงพาณิชย์ ส่งผลกระทบต่อความพยายามของนามิเบีย ประเทศในแอฟริกาใต้ ที่หวังจะเป็นผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหม่
เชลล์เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวานนี้ (8 ม.ค.) ว่า แหล่งน้ำมันและก๊าซที่ค้นพบในแปลงสัมปทานนอกชายฝั่ง PEL39 ในนามิเบีย "ในปัจจุบันไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะสามารถพัฒนาในเชิงพาณิชย์"
เชลล์และพันธมิตรอย่างกาตาร์เอเนอร์จี (QatarEnergy) ร่วมกับบริษัทน้ำมันแห่งชาตินามิเบีย ได้ค้นพบไฮโดรคาร์บอนในแปลง PEL39 เป็นครั้งแรกในปี 2565 ซึ่งเมื่อรวมกับการค้นพบอีกแห่งของโททาลเอนเนอร์ยี่ส์ (TotalEnergies) ในแปลงสัมปทานใกล้เคียง ก็ได้จุดประกายความสนใจอย่างมากจากทั่วโลกในประเทศแถบแอฟริกาตอนใต้แห่งนี้ ที่ยังไม่มีการผลิตน้ำมันและก๊าซ
เชลล์ได้ขุดเจาะหลุมสำรวจ 9 หลุมในแปลงสัมปทานดังกล่าวในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่การค้นพบแหล่งสำรองอื่น ๆ อีกหลายแห่ง
เมื่อไม่นานมานี้ บริษัทน้ำมันของโปรตุเกสอย่างกัลป์ (Galp) ก็ได้ค้นพบแหล่งสำรองขนาดใหญ่ในแปลงสัมปทานนอกชายฝั่งอีกแห่งเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เชลล์ต้องเผชิญกับความยากลำบากทางเทคนิคและทางธรณีวิทยาในการพัฒนาแหล่งทรัพยากร
วาเอล ซาวาน ซีอีโอของเชลล์ กล่าวกับนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ว่า พื้นที่สัมปทานของนามิเบีย "มีความท้าทายอย่างมาก" เนื่องจากชั้นหินมีการซึมผ่านต่ำ ทำให้สกัดน้ำมันและก๊าซได้ยาก
แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า แหล่งน้ำมันนอกชายฝั่งที่พบมีปริมาณก๊าซธรรมชาติสูง ซึ่งยิ่งเพิ่มความซับซ้อนในการพัฒนา
ทั้งนี้ เชลล์ได้แจ้งข่าวการปรับปรุงผลประกอบการก่อนประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/2567 ในวันที่ 30 ม.ค. โดยคาดว่าจะตัดจำหน่ายการลงทุนด้านการสำรวจประมาณ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม และจะตัดจำหน่ายอีก 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกี่ยวข้องกับใบอนุญาตการสำรวจในโคลอมเบียเป็นหลัก