อิสราเอลกำลังผลักดันให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการผลิตไฟฟ้าและสร้างรายได้ไปพร้อมกัน โดยส่งเสริมให้ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน เพื่อใช้ประโยชน์จากแสงแดดซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือในประเทศ
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ปัจจุบันอิสราเอลผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนราว 15% ส่วนใหญ่อีก 70% มาจากก๊าซธรรมชาติ โดยกระทรวงพลังงานตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเป็น 30% ภายในปี 2573 และจะเพิ่มขึ้นอีกมากจนถึงปี 2593 ซึ่งเป็นปีที่ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์
รอน ไอเฟอร์ หัวหน้าฝ่ายพลังงานยั่งยืนของกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า "นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในวงการพลังงาน จากที่ประชาชนเคยเป็นแค่ผู้ใช้ไฟฟ้า ก็จะได้มาเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตพลังงานด้วย"
หลายครอบครัวเริ่มหันมาผลิตไฟฟ้าใช้เองและขายส่วนเกินเข้าระบบสายส่งของประเทศแล้ว โดยไอเฟอร์เผยว่าบ้านเรือนเหล่านี้ผลิตไฟฟ้าได้รวมราว 6,700 เมกะวัตต์ แต่ทางกระทรวงฯ ยังอยากเพิ่มจำนวนให้มากขึ้นอีก เพราะครอบครัวทั่วไปใช้ไฟฟ้าเฉลี่ยปีละ 8,000 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมง (1 เมกะวัตต์ เท่ากับ 1,000 กิโลวัตต์)
ล่าสุด กระทรวงพลังงานได้เปิดตัวเว็บไซต์แผนที่ในวันนี้ (4 ก.พ.) ให้ประชาชนลองกรอกที่อยู่เพื่อดูว่าบ้านของตนมีพื้นที่เท่าไหร่ที่จะติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ได้ พร้อมคำนวณว่าจะผลิตไฟฟ้าได้เท่าไหร่และมีรายได้จากการขายไฟฟ้าส่วนเกินเท่าไหร่
โยสซี ดายัน อธิบดีกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า "เราอยากส่งเสริมให้ประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นติดตั้งหลังคาโซลาร์กันให้มากขึ้น" พร้อมเสริมว่าโครงการนี้จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ "หลังคาโซลาร์ไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าไฟ แต่ยังเป็นแหล่งพลังงานสำรองยามฉุกเฉิน และช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย"
ทั้งนี้ ครัวเรือนและอะพาร์ตเมนต์ส่วนใหญ่ทั่วอิสราเอลมีแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาเพื่อใช้ทำน้ำอุ่นอยู่แล้ว
การใช้พลังงานในอิสราเอลเพิ่มขึ้นปีละ 3% ซึ่งสูงเป็นอันดับต้น ๆ ในบรรดาประเทศตะวันตก ทำให้ต้องเร่งหาทางรับมือกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่พุ่งสูงขึ้น พร้อมกับเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดไปด้วย
ประชาชน ภาคธุรกิจ และเทศบาลจะต้องลงทุนติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เอง ซึ่งไอเฟอร์บอกว่าโดยทั่วไปจะคุ้มทุนภายใน 6 ปี โดยอิสราเอลมีแดดแทบจะตลอดทั้งปี ไม่มีทางเลือกอื่นด้านพลังงานหมุนเวียนเหมือนประเทศอื่นที่มีทั้งพลังงานลมและพลังน้ำ
ไอเฟอร์กล่าวว่า "พลังงานหมุนเวียนของเราเกือบทั้งหมดมาจากแสงอาทิตย์" แต่ค่าไฟฟ้าในอิสราเอลก็ยังถูกกว่าเยอรมนีหรือเนเธอร์แลนด์เยอะ โดย "อิสราเอลเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีพื้นที่กว้างขวางมากนัก ... นี่คือเหตุผลว่าทำไมเราจึงสนับสนุนและส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์"