สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 2.3 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,277.6 ดอลลาร์/ออนซ์ ในวันศุกร์ สำหรับตลอดสัปดาห์ ราคาทองพุ่งสูงขึ้น 5.4% ซึ่งเป็นสัปดาห์แรกในรอบ 4 สัปดาห์ที่สัญญาทองคำดีดตัวขึ้น และยังเป็นการปรับตัวขึ้นสูงสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดในวันที่ 28 ต.ค. 2554 จากข้อมูลของ FactSet
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 16.4 เซนต์ หรือ 0.82% ปิดที่ 19.792 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,406.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับลง 70 เซนต์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 722.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในวันศุกร์ ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำ เนื่องจากดอลลาร์ที่แข็งค่าทำให้ทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ICE ซึ่งเป็นมาตรวัดสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐกับอีก 6 สกุลเงินหลัก ปรับตัวขึ้นแตะ 82.966 จากระดับ 82.707 ในวันพฤหัสบดี
วีแดนท์ ไมมานิ ผู้จัดการพอร์ทการลงทุนจาก Atyant Capital Global Opportunities Fund กล่าวว่า สัญญาทองคำขยับลงเพียงเล็กน้อยจากที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวันพฤหัสบดี ขณะที่นักลงทุนเตรียมพร้อมรับมือกับการซื้อขายในสัปดาห์หน้า
ราคาทองดิ่งลงแล้ว 24% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ เนื่องจากมีการคาดการณ์กันว่า ธนาคารกลางสหรัฐจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรในวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน โดยปกติแล้ว ทองคำจะได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากนักลงทุนจะเข้าซื้อโลหะมีค่า เพราะวิตกว่ามาตรการเหล่านี้อาจทำให้มูลค่าของเงินลดลง นอกจากนี้ นักลงทุนมักใช้ทองเป็นตัวปกป้องความเสี่ยงจากเงินเฟ้อซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นจากการผ่อนคลายทางการเงิน