สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 12.9 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 1,277.5 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 51.5 เซนต์ ปิดที่ 19.42 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1411.00 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 14.10 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 735.45 ดอลลาร์/ออนซ์ ดิ่งลง 0.15 ดอลลาร์
ในช่วงแรกนั้น สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นขานรับถ้อยแถลงของเบอร์นันเก้ที่ระบุว่า เฟดจะไม่กำหนดตารางเวลาเกี่ยวกับการลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตรเอาไว้ล่วงหน้าอย่างแน่นอน และการปรับขนาดโครงการซื้อพันธบัตรซึ่งปัจจุบันอยู่ที่วงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนนั้น เฟดจะดำเนินการโดยอิงตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นหลัก
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐยังได้กระตุ้นแรงซื้อเข้ามาในตลาดทองคำในช่วงแรก โดยตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนมิ.ย.ของสหรัฐ ร่วงลง 9.9% มาอยู่ที่ระดับ 836,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 960,000 ยูนิต ขณะที่ตัวเลขการอนุญาตสร้างบ้านเดือนมิ.ย.ลดลง 7.5% มาอยู่ที่ระดับ 911,000 ยูนิต ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1 ล้านยูนิต
อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำร่วงลงในเวลาต่อมา หลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดความเคลื่อนไหวของ 6 สกุลเงินที่เป็นคู่ค้าหลักของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 82.715 จุดในวันพุธ จากวันอังคารที่ 82.599 จุด
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากสัญญาทองคำไม่สามารถพุ่งขึ้นทะลุแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ไปได้ในอนาคตอันใกล้นี้ สัญญาทองคำก็อาจจะร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1,248 ดอลลาร์/ออนซ์ หรือ 1,220 ดอลลาร์/ออนซ์