สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 5.5 ดอลลาร์ หรือ 0.41% ปิดที่ 1,327 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 7 เซนต์ ปิดที่ 21.857 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 6.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1425.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 4 ดอลลาร์ ปิดที่ 717.95 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากซิตี้กรุ๊ปได้แสดงความคิดเห็นในรายงานล่าสุดว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการ QE นั้น จะช่วยหนุนตลาดทองคำแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น และสัญญาทองคำยังคงมีแนวโน้มขาลง พร้อมกับคาดการณ์ว่าราคาทองอาจร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจจะส่งสัญญาณแข็งแกร่งขึ้น
ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ 1,200 -1,350 ดอลลาร์ในปีหน้า ก่อนที่จะมีแนวโน้มปรับตัวลง และโกลด์แมน แซคส์ คาดว่าสัญญาทองคำจะร่วงลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,000 ดอลลาร์ในปีหน้า
สัญญาทองคำร่วงลงต่อเนื่องจากวันศุกร์ หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงในการประชุมเดือนต.ค.หลังจากที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ราคาทองพุ่งขึ้นถึง 4.5% จากการที่เฟดมีมติคงโครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนต่อไปหลังเสร็จสิ้นการประชุมระหว่างวันที่ 17-18 ก.ย.
สำหรับในปีนี้ ราคาทองคำได้ร่วงลงไปแล้ว 21% เนื่องจากมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น จึงทำให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำ ซึ่งจัดเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย