รายงานของ WGC ระบุว่า ความต้องการทองรูปพรรณ ทองแท่ง และเหรียญทองของจีนเพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
อุปสงค์ทองคำของจีนยังปรับตัวขึ้นสูงกว่าอินเดียซึ่งเดิมเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก
ในช่วงเดือนก.ค.-ก.ย. ปริมาณการใช้ทองคำของอินเดียอยู่ที่ 148.2 ตัน ร่วงลง 32% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทองรูปพรรณยังคงมีสัดส่วนใหญ่สุดในอุปสงค์ทองคำทั่วโลก ด้วยปริมาณ 487 ตัน เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว
รายงานระบุว่า อุปสงค์ทองคำทั่วโลกอยู่ที่ 869 ตัน ปรับตัวลง 21% เทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ตาม อุปสงค์ทองคำในภาคอุตสาหกรรมและประเทศส่วนใหญ่ยังคงแข็งแกร่งอยู่
ในปีนี้ อุปสงค์ทองคำรูปพรรณ ทองแท่ง และเหรียญทองกำลังเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่อุปสงค์ทองในภาคเทคโนโลยีก็ยังคงแข็งแกร่ง
นายมาร์คัส กรับบ์ กรรมการผู้จัดการฝ่ายการลงทุนของ WGC ระบุว่า ตลาดทองคำโลกยังคงสามารถฟื้นตัวได้ดีในช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี โดยได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เปลี่ยนขั้วจากตะวันตกไปสู่ตะวันออกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอุปสงค์ที่แข็งแกร่งของผู้บริโภคหลายกลุ่ม ตลอดจนธนาคารกลาง และภาคเทคโนโลยี
รายงาน WGC เผยว่า ธนาคารกลางกลายเป็นผู้ซื้อสุทธิทองคำติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 11 ในปริมาณ 93 ตันในเดือนก.ค.- ก.ย. ขณะเดียวกันอุปสงค์ทองคำจากภาคเทคโนโลยียังคงมีเสถียรภาพที่ 103 ตัน
ราคาทองคำเฉลี่ยในไตรมาส 3 อยู่ที่ 1,326 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับตัวลง 20% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ช่วงเดือนก.ค.- ก.ย. เป็นไตรมาสที่ความต้องการทองคำชะลอตัวลง
กรับบ์กล่าวว่า ความนิยมทองรูปพรรณ ทองแท่ง และโดยเฉพาะเหรียญทองนั้น แสดงให้เห็นถึงอุปสงค์ทองคำที่มีความหลากหลาย ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในระดับที่แตกต่างกันในวงจรเศรษฐกิจโลก นี่จึงเป็นหลักฐานที่ชัดเจนของภาวะขึ้นลงของตลาดที่ได้ชื่อว่ามีสภาพคล่องสูง สำนักข่าวซินหัวรายงาน