สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ขยับขึ้น 50 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ระดับ 1,244.10 ดอลลาร์/ออนซ์ สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำร่วงลง 3.4% ซึ่งเป็นการลดลงหนักสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 13 ก.ย. โดยในสัปดาห์ดังกล่าว ราคาทองดิ่งลงถึง 5.6%
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 7.2 เซนต์ หรือ 0.36% ปิดที่ 19.862 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 9.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,382.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวขึ้น 80 เซนต์ ปิดที่ 714.05 ดอลลาร์/ออนซ์
โดยเมื่อวันพฤหัสบดี สัญญาทองคำอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก เมื่อข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาสดใสของสหรัฐได้สนับสนุนความเป็นไปได้ที่ว่าเฟดอาจลดมาตรการกระตุ้นในการประชุมอีกไม่กี่ครั้งข้างหน้า
นักลงทุนวิตกกังวลว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเฉพาะข้อมูลด้านแรงงาน อาจจะทำให้เฟดเริ่มพิจารณาการปรับลดขนาด QE โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 16 พ.ย.ปรับตัวลดลง 21,000 ราย สู่ระดับ 323,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 335,000 ราย จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 344,000 ราย สะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงฟื้นตัว
นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า ปีนี้ได้แสดงให้เห็นว่า อุปสงค์ทองคำจากจีนไม่สามารถชดเชยแรงขายในตลาดทองจากกองทุนตะวันตก
ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว ทองคำจะได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นทางการเงินของธนาคารกลาง เนื่องจากนักลงทุนจะเข้าซื้อโลหะมีค่า เพราะวิตกว่ามาตรการเหล่านี้อาจทำให้มูลค่าของเงินลดลง นอกจากนี้ นักลงทุนมักใช้ทองเป็นตัวปกป้องความเสี่ยงจากเงินเฟ้อซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่างๆ