สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1,229.6 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1244.7 - 1224.2 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 31.6 เซนต์ ปิดที่ 19.787 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,415.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 3.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 741.70 ดอลลาร์/ออนซ์
ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนพ.ย. ปรับตัวลดลง 12.9% สู่ระดับ 3.425 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 3.933 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการส่งออกที่ขยายตัวขึ้นทำสถิติสูงสุด
ทั้งนี้ ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย.ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2552 หรือในรอบ 4 ปี ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐจะอยู่ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนพ.ย.
ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งดังกล่าวของสหรัฐได้สร้างแรงกดดันให้กับตลาดทองคำในอีกด้านหนึ่ง เนื่องจากนักลงทุนมองว่าภาวะเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งอาจจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก
ตลาดทองคำได้รับปัจจัยลบมากขึ้นเมื่อนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขาซานฟรานซิสโกกล่าวว่า เฟดอาจจะลดขนาดมาตรการ QE ลงอีกในปี 2557 ตราบใดที่เศรษฐกิจขยายตัวตามที่เฟดคาดการณ์ไว้
ถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนจับตาดูรายงานประชุมนโยบายประจำเดือนธ.ค.ของเฟดในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเฟดจะเปิดเผยทิศทางของนโยบายการเงินในปี 2557