สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 1,324.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 47.7 เซนต์ ปิดที่ 21.898 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 5.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,424.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 4.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 737.15 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อความปลอดภัย หลังจากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติของสหรัฐ (NAHB) เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดที่อาศัยลดลงสู่ระดับ 46 ในเดือนก.พ. จาก 56 ในเดือนม.ค. เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย การขาดแคลนแรงงาน และที่ดินที่มีอยู่อย่างจำกัด
ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.พ. ร่วงลงมาอยู่ที่ 4.48 จากระดับ 12.51 ในเดือนม.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่าว่ากิจกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์ก ซึ่งครอบคลุมถึงตอนเหนือของนิวเจอร์ซีย์และตอนใต้ของคอนเนตทิคัต ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงจากเดือนก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำแกว่งตัวในระหว่างวัน หลังจาก สภาทองคำโลกรายงานว่า อุปสงค์ทองทำร่วงลง 15% ในปีที่แล้ว ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะเงินทุนไหลออกจากกองทุนรวมอีทีเอฟทองคำในปริมาณมากกว่าแรงซื้อของผู้บริโภค โดยรายงานระบุว่าผู้บริโภคซื้อทองคำเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว โดยเฉพาะจีนที่แซงหน้าอินเดียขึ้นเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่สุดของโลก แต่ก็ยังไม่มากพอที่จะชดเชยแรงเทขายจากนักลงทุนได้